วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565

ปรัชญาการศึกษาจากซเราะฮฺ อัล-อัศริ

 

ถ้าทุกคนไม่อยากเป็นผู้ขาดทุนก็ต้องเป็น "ครู" ที่เผยแพร่สัจธรรม

           ในอัลกุรอาน บทที่หรือซูเราะฮฺ 103 ที่มีชื่อว่า ซูเราะฮฺ อัล-อัศริ  (سورة العصرเป็นซูเราะฮฺสั้น ๆ มีเพียง อายะฮฺ หรือ โองการ อ่านง่าย ท่องง่าย และศึกษาความหมายเข้าใจง่ายด้วย ฉะนั้นคนมุสลิมส่วนใหญ่แล้วจะท่องได้ และบางคนที่จำอัลกุรอานได้ไม่มากนัก มักจะนำซูเราะฮฺนี้มาอ่านเวลาละหมาด

وَالْعَصْرِ (١)
إِنَّ الْإِنْسَانَ لَفِي خُسْرٍ (٢)

إِلَّا الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ وَتَوَاصَوْا بِالْحَقِّ وَتَوَاصَوْا بِالصَّبْرِ (٣)

        ความว่า :  1. ขอสาบานด้วยกาลเวลา
                         2. แท้จริงมนุษย์นั้น อยู่ในการขาดทุน 
                         3. นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลาย และตักเตือนกันและกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรม และตักเตือนกันและกันให้มีความอดทน

        อิมามชาฟีอีย์ มีความเห็นว่า ผู้ใดได้ศึกษาซูเราะฮฺนี้อย่างจริงจัง เพียงพอแล้วสำหรับเขา

        ซัยยิด กุฏุบ ได้กล่าวในหนังสือ “ใต้เงาอัลกุรอาน”(في ظلال القرآن) ว่า ในซูเราะฮฺสั้นๆที่มีเพียง อายะฮฺนี้ จะครอบคลุมวิถีชีวิตที่สมบูรณ์สำหรับมนุษย์คนหนึ่งให้เป็นไปตามที่อัลกุรอานต้องการ

        เริ่มแรกของสูเราะห์นี้ อัลลอฮฺได้สามบานกับเวลา وَالْعَصْرِ (วัลอัศริ) เวลาเป็นวินาที เป็นนาที เป็นชั่วโมง เป็นเดือน เป็นปี หรือเป็นยุคสมัย ทุกๆเวลามีความสำคัญ ชีวิตของเราอยู่กับเวลา การสูบลมหายใจเข้าหายใจออกของเราในแต่ละครั้งนั้นแสดงให้เห็นว่าเวลาของเราไปลดลงไปเรื่อยๆ ท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้กล่าว ว่า

 اغتنم خمسا قبل خمسشبابك قبل هرمك، وصحتك قبل سقمك، وغناك قبل فقرك،
 وفراغك قبل شغلك، وحياتك قبل موتك

        ความว่า : “เจ้าจงแย่งชิง อย่างก่อนที่อีก อย่างจะมาถึง คือ ความหนุ่มของเจ้าก่อนความแก่ชราจะมาถึง การมีสุขภาพของเจ้าก่อนที่การเจ็บป่วยจะมาถึง ความร่ำรวยของเจ้าก่อนที่ความยากจนจะมาถึง เวลาอันว่างเปล่าของเจ้าก่อนที่เจ้าจะไม่มี และการมีชีวิตของเจ้าก่อนเจ้าตาย (บันทึกโดยอัลฮากิม จากรายงานของอิบนุอับบาส)

        อิบนุอุมัรกล่าวว่า :

 إذا أمسيت فلا تنتظر الصباح ، وإذا أصبحت فلا تنظر المساء
وخذ من صحتك لمرضك ومن حياتك لموتك

        ความว่า เมื่อเจ้าเจอเวลาเย็น เจ้าอย่ารอตอนเช้า และเมื่อเจ้าถึงเวลาเวลาเช้าเจ้าอย่ารอตอนเย็น เจ้าจงแย่งชิงการมีสุขภาพของเจ้าเพื่อการเจ็บป่วยและชีวิตของเจ้าเพื่อความตายของเจ้า

        إِنَّ الْإِنسَانَ لَفِي خُسْرٍ  (แท้จริงมนุษย์นั้นอยู่ในการขาดทุน)

เว้นแต่...( إلاَّ )

    1.  الَّذِينَ آمَنُوا (ผู้ศรัทธา)

  • ศรัทธาในอัลลอฮฺ
  • ศรัทธาในบรรดามะลาอิกะฮฺของพระองค์
  • ศรัทธาในคัมภีร์ของพระองค์
  • ศรัทธาในศาสนฑูต(รอซูล)ของพระองค์
  • ศรัทธาในวันกิยามัต(วันสิ้นโลก)
  • ศรัทธาในกฎสภาวะของพระองค์

          นับเป็นสิ่งแรกและสิ่งหลักที่จะกำหนดแนวทางการปฏิบัติของบุคคล ดังที่อัลลอฮฺได้กล่าวในอายะฮฺหนึ่งว่า

 إِنَّ اللّهَ لاَ يُغَيِّرُ مَا بِقَوْمٍ حَتَّى يُغَيِّرُواْ مَا بأنفسهم        [الرعد : 11]

           ความว่า  แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่เปลี่ยนแปลงวาสนาของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนอกจากพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงภายใน(จิต)ของพวกเขาเอง (อัร-รออฺดุ 13/11)

          ความศรัทธา คือ เปลี่ยนแปลงภายใน          

         วิลเลียม พิลเลย์ ได้กล่าวว่า “จงเปลี่ยนความคิดของคุณแล้วโลกของคุณก็จะเปลี่ยนแปลง”หรือเราอาจกล่าวในอีกนัยหนึ่ง คือการเปลี่ยนเจตคติ(Attitude) พฤติกรรมของมนุษย์ที่จะแสดงออกหรือไม่แสดงอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับเจตคติของเขาที่มีต่อสิ่งนั้น

    2. وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ (และผู้ที่ทำความดี)

  • ปฏิบัติตามหลักศาสนบัญญัติครบสมบูรณ์ เช่น ละหมาด ถือศีลอด ทำฮัจญ์ เป็นต้น
  • ทำความดีตามที่สังคมได้กำหนด
  • ทำความดีตามที่กฎหมายบ้านเมืองได้บัญญัติทั้งนี้และทั้งนั้น ที่เป็นความดีที่สังคมกำหนดต้องไม่ขัดกับกรอบที่ศาสนาวางไว้ 
        นักการศึกษา ครู ผู้ปกครอง พ่อแม่หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กในลักษณะใดก็ตาม ที่มีหน้าที่ต้องสั่งสอนเด็ก สิ่งแรกที่เขาจะต้องทำ คือ เขาต้องปฎิบัติก่อน ต้องเป็นแบบอย่าง(Model) ที่ดี อัลลลอฮฺได้กล่าวในสูเราะห์ อัศ-ศอฟ อายัตที่ และ ว่า

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آَمَنُوا لِمَ تَقُولُونَ مَا لَا تَفْعَلُونَ   [الصف : 2]
ความว่า โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ทำไมเจ้าพูดในสิ่งที่เจ้าไม่ทำ (อัศ-ศอฟ :61/2)
كَبُرَ مَقْتاً عِندَ اللَّهِ أَن تَقُولُوا مَا لَا تَفْعَلُونَ    [الصف : 3]
ความว่า บาปใหญ่ ณ ที่ของอัลลอฮฺนั้น คือ การที่พวกเจ้าพูดในสิ่งที่พวกเจ้าไม่ทำ 
(อัศ-ศอฟ :61/3)



    3.
وَتَوَاصَوْا بِالْحَقِّ (และผู้ตักเตือนกันและกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรม)
        บางครั้งเราจะให้คำนิยามของมนุษย์ คือ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จริงๆแล้วมนุษย์ไม่ใช่สัตว์ แต่มีพฤติกรรมบางอย่างเหมือนสัตว์หรือคล้ายสัตว์ และมนุษย์ใช้ชีวิตแบบต้องพึงพาสังคม การที่จะให้อยู่ในสังคมอย่างสันติสุขนั้นจำเป็นที่จะต้องมีข้อตกลงระหว่างกัน และข้อตกลงนี้บางทีเราเรียกว่า ขนบธรรมเนียมประเพณี บางครั้งเราเรียกว่ากฎหมาย รัฐธรรมนูญหรือระเบียบที่ใช้บังคับกันในหมู่สังคมนั้น ๆ ซึ่งข้อตกลงนี้เกิดขึ้นด้วยประสบการณ์ของมนุษย์เองแล้วมาขีดเขียนเป็นข้อตกลงกัน บางครั้งทำให้จำเป็นที่จะต้องฉีกแล้วฉีกอีกแล้วเขียนขึ้นมาทำไม เพราะความสมบูรณ์ในตัวมันจะไม่มีเด็กขาด เหตุเพราะความอ่อนแอของมนุษย์ที่มีอยู่ในตัวตนของมนุษย์ อัลลอฮฺผู้ทรงสร้างมนุษย์ได้ตรัสว่า
وَخُلِقَ الْإِنْسَانُ ضَعِيفًا
        ความว่า : และมนุษย์นั้นถูกบังเกิดขึ้นในสภาพที่อ่อนแอ (อัน-นิซาอฺ 4/27)

        หรือแม้จะเรียนหนังสือถึงขั้นสูงเพียงใดก็ไม่สามารถเป็นผู้รอบรู้ทุกอย่างได้ อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
وَمَا أُوتِيتُمْ مِنَ الْعِلْمِ إِلَّا قَلِيلاً
        ความว่า : และพวกท่าน(มนุษย์)จะไม่ได้รับความรู้ใดๆ เว้นแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (อัล-อิสรออฺ 17/85)
        แต่สำหรับมุสลิมหรือผู้ศรัทธาแล้ว ข้อตกลงต่างๆในลักษณะนี้ มีไว้ให้เรียบร้อยแล้ว และมีอย่างสมบูรณ์
 الْيَوْمَ أَكْمَلْتُ لَكُمْ دِينَكُمْ وَأَتْمَمْتُ عَلَيْكُمْ نِعْمَتِي وَرَضِيتُ لَكُمُ الْإِسْلَامَ دِينًا
        ความว่า : วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งศาสนา(วิถีชีวิต)ของพวกเจ้าและข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว (อัล-มาอิดะฮฺ 5/3)
        ศาสนาในที่นี้ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเท่านั้น แต่เป็นวิถีชีวิต ฉะนั้นในการที่จะให้สังคมอยู่เย็นอย่างสันติสุขนั้น นอกจากจะต้องนำบทบัญญัติศาสนามาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแล้ว ทุกคนก็จะต้องบอกต่อๆ เพื่อให้ทุกคนได้ปฎิบัติการดี  وَتَوَاصَوْا بِالْحَقِّ (บอกต่อๆในสิ่งที่เป็นสัจธรรม) 
        ครูหรือนักการศึกษา (รวมถึงพ่อแม่) มีหน้าที่โดยตรงที่จะต้อง บอกต่อๆ หรือตักเตือน หรือสอนลูกหลานหรือผู้ที่ต้องดูแล ให้การทำดีและให้ความรู้ที่เป็นความจริง จึงจะไม่ได้ชื่อว่า เป็นผู้ขาดทุน
    4. وَتَوَاصَوْا بِالصَّبْر (และตักเตือนกันและกันให้มีความอดทน) 
        ในการตักเตือนหรือการบอกต่อๆกันให้กระทำความดี หรือเผยแพร่สัจธรรมนั้น จะไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้ง บางครั้งอาจจะต้องพบกับการต่อต้านด้วยวิธีการต่างๆ นานา
 أَحَسِبَ النَّاسُ أَنْ يُتْرَكُوا أَنْ يَقُولُوا آمَنَّا وَهُمْ لَا يُفْتَنُون وَلَقَدْ فَتَنَّا الَّذِينَ مِنْ قَبْلِهِمْ فَلَيَعْلَمَنَّ
اللَّهُ الَّذِينَ صَدَقُوا وَلَيَعْلَمَنَّ الْكَاذِبِينََ
        ความว่า : มนุษย์คิดหรือว่า พวกเขาจะถูกทอดทิ้งเพียงแต่พวกเขากล่าวว่าเราศรัทธา และพวกเขาจะไม่ถูกทดสอบ กระนั้นหรือ ? และโดยแน่นอน เราได้ทดสอบบรรดาก่อนหน้าพวกเขาแล้ว ดังนั้นอัลลอฮ์จะทรงจำแนกให้รู้แจ้งถึงบรรดาผู้สัตว์จริงและจะทรงจำแนกให้รู้แจ้งถึงบรรดาผู้กล่าวเท็จ (อัล-อันกะบูต 29/ 2-3)
        ครูหรือนักการศึกษา(المربي) ในชีวติการเป็นครูจะต้องประสบกับการทดสอบต่างๆ นานา บางครั้งไม่ใช่ขาดการสนับสนุนเท่านั้น อาจจะเจอการต่อต้านจากผู้ไม่รู้ไม่ให้ครูที่ได้ดำเนินตามอุดมการณ์ที่ได้วางไว้ นอกจากนั้น ในการเรียนการสอนครูจะต้องใช้ความอดทน อดกลั้นพอสมควร ครูจำเป็นต้องใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อให้สามารถนำศาสน์ที่ตัวเองมีสู่ผู้เรียนให้ได้ ครูจะต้องอดทนศึกษาอย่างต่อเนื่องทั้งในวิชาการที่ตัวเองสอนอยู่ และในเรื่องจิตวิทยาการเรียนการสอน ในตรงกันข้ามถ้าครูไม่อดทน อ่อนไหวง่าย ท้อแท้ อุดมการของครูก็ไม่สามารถบรรลุสู่จุดสำเร็จได้ ศาสน์ที่ครูมีอยู่ก็ไม่สามารถเผยแพร่แก่ผู้อื่นได้ สุดท้ายสัจธรรมหรือความจริงก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ครูก็จะเป็นผู้แพ้และผู้ขาดทุนอย่างที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้
 وَقَالَ الَّذِينَ أُوتُوا الْعِلْمَ وَيْلَكُمْ ثَوَابُ اللَّهِ خَيْرٌ لِمَنْ آمَنَ وَعَمِلَ صَالِحًا وَلَا يُلَقَّاهَا إِلَّا الصَّابِرُونَ 
         ความว่า : และบรรดาผู้ได้รับความรู้(*1) กล่าวว่า “ความวิบัติแด่พวกท่าน ! ผลบุญแห่งอัลลอฮฺนั้นดีกว่าแก่ผู้ศรัทธาและกระทำความดีและไม่มีผู้ใดได้รับมันนอกจากบรรดาผู้อดทนเท่านั้น” (*2)

------------------------------------------------------    
(1) คือผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ความเข้าใจ และยึดมั่นในแนวทางที่ถูกต้องและเที่ยงธรรม
(2) คือตำแหน่งนี้หรือการตอบแทนนี้ จะไม่มีใครได้รับปรโลก นอกจากบรรดาผู้อดทนปฏิบัติตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น