วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565

ตัฟซีรฺอิบนุกะษีรฺ : ซูเราะฮฺ อัล-มุลกฺ(6-11)


ًوَلِلَّذِينَ كَفَرُواْ بِرَبِّهِمۡ عَذَابُ جَهَنَّمَۖ وَبِئۡسَ ٱلۡمَصِيرُ ﴿٦﴾ إِذَآ أُلۡقُواْ فِيهَا سَمِعُواْ لَهَا شَهِيقاً وَهِيَ تَفُورُ ﴿٧﴾ تَكَادُ تَمَيَّزُ مِنَ ٱلۡغَيۡظِۖ كُلَّمَآ أُلۡقِيَ فِيهَا فَوۡجٞ سَأَلَهُمۡ خَزَنَتُهَآ أَلَمۡ يَأۡتِكُمۡ نَذِيرٌ ﴿٨﴾ قَالُواْ بَلَىٰ قَدۡ جَآءَنَا نَذِيرٌ فَكَذَّبۡنَا وَقُلۡنَا مَا نَزَّلَ ٱللَّهُ مِن شَيۡءٍ إِنۡ أَنتُمۡ إِلَّا فِي ضَلَٰلٍ كَبِيرٍ ﴿٩﴾ وَقَالُواْ لَوۡ كُنَّا نَسۡمَعُ أَوۡ نَعۡقِلُ مَا كُنَّا فِيٓ أَصۡحَٰبِ ٱلسَّعِيرِ ﴿١٠﴾ فَٱعۡتَرَفُواْ بِذَنۢبِهِمۡ فَسُحۡقاً لِّأَصۡحَٰبِ ٱلسَّعِيرِ ﴿١١﴾

(6.และสำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเขานั้น คือการลงโทษแห่งนรกญะฮันนัม และมันเป็นทางกลับที่ชั่วช้ายิ่ง 7.เมื่อพวกเขาถูกโยนลงไปในนรกพวกเขาจะได้ยินเสียงของมันครวญครางขณะที่มันกำลังเดือดพล่าน 8.มันแทบจะระเบิดออกไปเพราะความเคียดแค้น ทุกครั้งที่พวกหนึ่งถูกโยนลงไปในมัน ยามเฝ้านรกจะถามพวกเขาว่า มิได้มีผู้ตักเตือนมายังพวกเจ้าดอกหรือ 9.พวกเขากล่าวว่า มี ได้มีผู้ตักเตือนมายังเรา แต่พวกเราได้ปฏิเสธ และเรากล่าวอีกว่า อัลลอฮฺมิได้ทรงประทานสิ่งใดลงมาพวกท่านต่างหากที่อยู่ในการหลงผิดอย่างมาก 10.และพวกเขากล่าวอีกว่า หากพวกเราฟังและใช้สติปัญญาใคร่ครวญ พวกเราก็จะมิได้มาอยู่เป็นชาวนรกอย่างนี้ดอก 11.พวกเขายอมสารภาพในความผิดของพวกเขา แต่มันห่างไกลไปเสียแล้วสำหรับชาวนรก)

        ﴾وَ﴿(และ) เราได้เตรียมไว้
        لِلَّذِينَ كَفَرُواْ بِرَبِّهِمۡ عَذَابُ جَهَنَّمَۖ وَبِئۡسَ ٱلۡمَصِيرُ ﴿ (สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเขานั้น คือการลงโทษแห่งนรกญะฮันนัม และมันเป็นทางกลับที่ชั่วช้ายิ่ง) หมายถึง โชคชะตา(การตอบแทน)และการกลับไปสู่สิ่งที่โหดร้ายยิ่ง إِذَآ أُلۡقُواْ فِيهَا سَمِعُواْ لَهَا شَهِيقاً﴿ (เมื่อพวกเขาถูกโยนลงไปในนรกพวกเขาจะได้ยินเสียงของมันครวญคราง)

อิบนุญะรีรฺ ได้กล่าวว่า หมายถึง เสียงร้อง

وَهِيَ تَفُورُ﴿ (และมันกำลังเดือดพล่าน)

ซุฟยาน อัษเษารีย์ ได้กล่าวว่า เป็นการเดือดของพวกเขาอย่างการเดือดเมล็ดที่มีจำนวนน้อยเดือดในน้ำที่มีจำนวนมาก

﴾تَكَادُ تَمَيَّزُ مِنَ ٱلۡغَيۡظِۖ ﴿  (มันแทบจะระเบิดออกไปเพราะความเคียดแค้น) คือมันแทบจะแยกออกจากกัน เพราะความเดือดและความโกรธแค้นที่มีคนมาทำให้เขาเจ็บปวด และการทิ่มแทงของมัน كُلَّمَآ أُلۡقِيَ فِيهَا فَوۡجٞ سَأَلَهُمۡ خَزَنَتُهَآ أَلَمۡ يَأۡتِكُمۡ نَذِيرٌ﴿ قَالُواْ بَلَىٰ قَدۡ جَآءَنَا نَذِيرٌ فَكَذَّبۡنَا وَقُلۡنَا مَا نَزَّلَ ٱللَّهُ مِن شَيۡءٍ إِنۡ أَنتُمۡ إِلَّا فِي ضَلَٰلٍ كَبِيرٍ (ทุกครั้งที่พวกหนึ่งถูกโยนลงไปในมัน ยามเฝ้านรกจะถามพวกเขาว่า มิได้มีผู้ตักเตือนมายังพวกเจ้าดอกหรือ และพวกเขากล่าวอีกว่า หากพวกเราฟังและใช้สติปัญญาใคร่ครวญ พวกเราก็จะมิได้มาอยู่เป็นชาวนรกอย่างนี้ดอก)

อัลลอฮฺ-ตะอาลา-ได้ตรัสให้เห็นถึงความยุติธรรมของพระองค์ที่มีต่อที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา(มนุษย์) พระองค์ไม่ทรงลงโทษผู้ใดเว้นคนๆนั้นถูกยกให้เห็นถึงเหตุและผล และพระองค์ได้ทรงประทานศานทูตมาชี้นำแก่เขาแล้ว ตามที่พระองค์ได้ตรัสว่า وَمَا كُنَّا مُعَذِّبِينَ حَتَّى نَبْعَثَ رَسُولاً (  และเรามิเคยลงโทษผู้ใด จนกว่าเราจะแต่งตั้งเราะซูลมา)[อัลอิซรออฺ 17:15]

และ حَتَّى إِذَا جَاؤُوهَا فُتِحَتْ أَبْوَابُهَا وَقَالَ لَهُمْ خَزَنَتُهَا أَلَمْ يَأْتِكُمْ رُسُلٌ مِّنكُمْ يَتْلُونَ عَلَيْكُمْ آيَاتِ رَبِّكُمْ وَيُنذِرُونَكُمْ لِقَاء يَوْمِكُمْ هَذَا قَالُوا بَلَى وَلَكِنْ حَقَّتْ كَلِمَةُ الْعَذَابِ عَلَى الْكَافِرِينَ  (จนกระทั่งเมื่อพวกเขามาถึงมัน(นรก) ประตูทั้งหลายของมันจะถูกเปิดออก  ยามเฝ้าประตูของมันจะกล่าวแก่พวกเขาว่า บรรดาเราะซูลจากพวกท่านมิได้มายังพวกท่านเพื่อสาธยายสัญญาณต่างๆ แห่งพระเจ้าของพวกท่านแก่พวกท่าน  และกล่าวเตือนพวกท่านถึงการพบในวันนี้ของพวกท่านดอกหรือ ? พวกเขากล่าวว่ามีครับ แต่ว่าพระประกาศิตแห่งการลงโทษเป็นที่คู่ควรแล้วแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา)[อัซ-ซุมัรฺ 39:71]

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็สำนึกในการกระทำของตัวเอง ซึ่งความสำนึกขอพวกเขา(ในเวลานั้น)ไม่มีประโยชน์อันใดเลย  ﴾ وَقَالُواْ لَوۡ كُنَّا نَسۡمَعُ أَوۡ نَعۡقِلُ مَا كُنَّا فِيٓ أَصۡحَٰبِ ٱلسَّعِيرِ ﴿ (และพวกเขากล่าวอีกว่า หากพวกเราฟังและใช้สติปัญญาใคร่ครวญ พวกเราก็จะมิได้มาอยู่เป็นชาวนรกอย่างนี้ดอก)

คือ พวกเขาที่เป็นชาวนรกนั้นกล่าวว่า ถ้าเรามีปัญญาและเราใช้ประโยชน์จากปัญญาที่เรามีนั้น หรือเราเชื่อฟังในสิ่งที่อัลลอฮฺประทานลงมาที่เป็นความสัตย์แท้จริง เราก็จะไม่เป็นอย่างที่เราเป็นด้วยการปฎิเสธในอัลลอฮฺและทรยศกับสิ่งที่พระองค์ประทานมา แต่เราไม่เข้าใจเพื่อให้สำนึกในสิ่งที่บรรดาศาสนทูตได้นำมา และเราไม่ใช้ปัญญาให้ชี้แนะเราเพื่อให้ทำตามบรรดาศาสนทูตเหล่านั้น

﴾فَٱعۡتَرَفُواْ بِذَنۢبِهِمۡ فَسُحۡقاً لِّأَصۡحَٰبِ ٱلسَّعِيرِ﴿ (พวกเขายอมสารภาพในความผิดของพวกเขา แต่มันห่างไกลไปเสียแล้วสำหรับชาวนรก)

อิมามอะหฺมัด ได้กล่าวว่า มุหัมมัด อิบนุ ญะอฺฟัรฺ ได้กล่าวแก่เราว่า ชุอฺบะฮฺ ได้กล่าวแก่เราว่า รายจากจากอัมริว์ อิบนุมุรฺเราะฮฺ จากอะบี อัลบัคตะรีย์ อัฏฏออีย์ ได้กล่าวว่า : คนที่ได้ยินเราะซูลุลลอฮฺได้บอกแก่ฉันว่า เราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า "لَنْ يَهْلَكَ النَّاسُ حَتَّى يُعْذِرُوا مِنْ أَنْفُسِهِمْ" (มนุษย์จะไม่เสียหายจนกว่าเขาสำนึกในตัวของพวกเขาเอง) ในหะดีษอื่นเราะซูลุลลอฮฺได้กล่าวว่า " لَا يَدْخُل أَحَد النَّار إِلَّا وَهُوَ يَعْلَم أَنَّ النَّار أَوْلَى بِهِ مِنْ الْجَنَّة" (ไม่ใครเข้านรก นอกจากเขารู้นรกเหมาะสมกับเขายิ่งกว่าสวรรค์)

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น