วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565

ตัฟซีรฺอิบนุกะษีรฺ : ซูเราะฮฺ อัล-มุลกฺ

 

ตัฟซีรฺ อิบนุกะษีรฺ : ซูเราะฮฺ อัล-มุลกฺ

poktafsiribnukathir

ซูเราะฮฺ อัล-มุลกฺ ซูเราะฮฺ มักกียะฮฺ ซูเราะฮฺที่ 67 มีทั้งหมด 30 อายัต

        อะหฺมัด กล่าวว่า จากรายงานของ เกาะตาดะฮฺ ว่า อะบู ฮุร็อยเราะฮฺ ได้รางานว่า เราะซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้กล่าว่า

 إِنَّ سُورَةً مِنْ الْقُرْآنِ ثَلَاثُونَ آيَةً شَفَعَتْ لِرَجُلٍ حَتَّى غُفِرَ لَهُ :   ﴿تَبَٰرَكَ ٱلَّذِي بِيَدِهِ ٱلۡمُلۡكُ﴾

        (ซูเราะฮฺในอัลอัลกุรอานที่มี 30 อายะฮฺ ขะวอนขอให้ลุโทษแก่คนที่อ่าน จนอัลลออฺอภัยให้ คือ تَبَٰرَكَ ٱلَّذِي بِيَدِهِ ٱلۡمُلۡكُ﴿ บันทึกโดยทั้ง 4 นักบันทึกหะดีษ จากรายงานของ ชุอฺบะฮฺ[1] และอัตติรมีซีย์ ได้กล่าวว่า "หะดีษนี้เป็นหะดีษหะซัน(ความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับดี)" อับฏ็อบรอนีย์ได้บันทึกไว้ว่า อะนัซ ได้กรายงานว่า เราะซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้กล่าวว่า

سورة في القرآنِ  خاصَمَتْ عنْ صاحبِهَا حتى أدخلَتْهُ الجنةَ

(ซูเราฮฺในอัลกุรอาน ได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อคนที่อ่านมันจนกระทั้งทำให้คนๆนั้นได้เข้าสวรรค์)[2]

        อัตติรมีซีย์ได้กล่าวว่า มีรายงานว่า อิบนุอับบาซ ได้กล่าวว่า : เศาะหาบะฮฺ(สหาย)นบีﷺบางคนได้กางเต็นท์(กระโจม)บนหลุมฝังศพ(กุบุร) โดยที่เขาไม่รู้ว่าเป็นตรงนั้นเป็นกุบุร อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายอ่านอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลมุลกฺจนจบ แล้วเขา(เศาะหาบะอฺคนนั้น)ก็ได้ไปหานบีﷺแล้ว กล่าวว่า

        يَا رَسُولَ اللَّهِ إِنِّي ضَرَبْتُ خِبَائِي عَلَى قَبْرٍ وَأَنَا لاَ أَحْسِبُ أَنَّهُ قَبْرٌفَإِذَا فِيهِ إِنْسَانٌ يَقْرَأُ سُورَةَ تَبَارَكَ الْمُلْكُ حَتَّى   خَتَمَهَا ‏.‏ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏ "‏ هِيَ الْمَانِعَةُ هِيَ الْمُنْجِيَةُ تُنْجِيهِ مِنْ عَذَابِ الْقَبْرِ" ‏

        (โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺ ฉันได้กาลเต็นท์บนหลุมฝังศพ(กุบุร) และฉันไม่นึกว่าเป็นกุบุร อยู่ๆก็มีมนุษย์อ่านซูเราะฮฺอัลมุลุกฺ()จนจบซูเราะฮฺ" เราะซูลุลลอฮฺﷺกล่าวว่า "มัน(ซูเราะฮอัลมุลกฺ) คือสิ่งป้องกัน มันคือ สิ่งที่ทำให้เขารอดพ้นจากการลงโทษในกุบูร")[3]

        และอัตติรมีซีย์กล่าวว่า "เป็นหะดิษที่แปลก(มีสายรายงานคนเดียว) ด้วยสายรายงานนี้" และมีหะดีษในเรืองเดียวกับนี้ที่รายงานโดยอะบูฮุร็อยเราะฮฺ และอัตติรมีซีย์ได้รายงานอีก จากสายรายงาน ไลษ อิบนุอะบีซะลีม จากอะบูซซะบีรฺ ว่า ญาบีรฺได้กล่าวว่า

" أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَانَ لا يَنَامُ حَتَّى يَقْرَأَ الم تَنْزِيلُ ، وَتَبَارَكَ الَّذِي بِيَدِهِ الْمُلْكُ "

        (ท่านนบีﷺจะไม่นอนจนกกว่าจะอ่าน"الم تَنْزِيلُ"(ซูเราะฮ อัซซะญะดะฮฺ) และ"تَبَارَكَ الَّذِي بِيَدِهِ الْمُلْكُ"(ซูเราะฮฺ อัลมุลุกฺ)"
        ไลษ์ กล่าวว่า ฏอวูซ ได้รายงานว่า "ความเด่นของทั้งสองซูเราะฮฺนี้มี 70 ความดี(หมายความว่า ผู้ใดได้อ่านซูเราะฮฺนี้จะได้ 70 ความดี จะถูกลบ 70 ความชั่วและจะถูกยกฐานะให้ขึ้นสูง 70 ระดับ)"[4] อัฏฏ็อบรอนีย์ ได้กล่าวว่า มีรายงานว่า อิบนุอับบาซด้กล่าวว่า เราะซูลุลลอฮฺﷺได้กล่าวว่า

لَوَدِدْتُ أَنَّهَا فِي قَلْبِ كُلِّ إِنْسَانٍ مِنْ أُمَّتِي يَعْنِي (تَبَارَكَ الَّذِي بِيَدِهِ الْمُلْكُ)ـ

(ฉันต้องการที่จะให้ซูเราะฮฺนี้อยู่ในจิตของมนุษย์ที่เป็นประชาชาติของฉันทุกคน คือ"تَبَارَكَ الَّذِي بِيَدِهِ الْمُلْكُ"[5]

        หะดีษนี้เป็นหะดีษเฆาะรีบ(สายรายงานเพียงแค่คนเดียว) และผู้รายงานที่ชื่ออิบรอฮีมความน่าเชื่อถือที่มีต่อความสัตย์ของเขาอยู่ในระดับอ่อน(เฎาะอีฟ) และเรื่องนี้ได้เสนอมาแล้วในเรื่องนี้ในซูเราะฮฺ "ยาซีน يس" หะดีษนี้ อับดุลหุไมด์ ได้รายงานด้วยสายรายงานที่ง่ายกว่านี้ เขาได้กล่าวว่า อิบรอฮีม อิบนุลหะกัม ได้กล่าวว่าพ่อของเขาได้รายงานว่ามีรายงานจากอักริมะฮฺซึ่งได้รับรายงานจากอิบนุอับบาซ ว่าเขาได้กล่าวแก่ชายคนหนึ่งว่า

"เจ้าจะเอาไหม ฉันจะให้รางวัลแก่เจ้าด้วยหะดีษๆหนึ่งที่จะทำให้เจ้ามีความสุข"

        ชายคนนั้นก็ได้ตอบว่า "แน่นอน ฉันต้องการ"  อิบนุอับบาซ กล่าวว่า "จงอ่าน﴾ تَبَٰرَكَ ٱلَّذِي بِيَدِهِ ٱلۡمُلۡكُ ﴿ แล้วสอนซูเราะฮฺนี้แก่ครอบครัวของเจ้า ลูกๆทุกคนของเจ้า เด็กๆในบ้านเจ้าและเพื่อนบ้านของเจ้า เพราะมันจะทำให้เจ้ารอดพ้นจากการถูกทำโทษในวันกิยามัต และมันเป็นสิ่งที่จะโต้ตอบในวันกิยามัตเมื่อเจอกับพระเจ้าของมัน มันจะขอจากพระเจ้าให้พ้นจากการลงโทษของไฟนรก ให้คนที่อ่านมันรอดพ้นจากการถูกลงโทษในหลุมฝังศพ เราะซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้กล่าวว่า

لَوَدِدْتُ أَنَّهَا فِي قَلْبِ كُلِّ إِنْسَانٍ مِنْ أُمَّتِي

(ฉันต้องการที่จะให้ซูเราะฮฺนี้อยู่ในจิตของมนุษย์ที่เป็นประชาชาติของฉันทุกคน)

        อัลหาฟิซ อิบนุอะซากิร ได้เขียนในหนังสือประวัติศาสตร์ของเขาในเรื่องประวัติของ อะหฺมัด อิบนุนัศรฺ อิบนุซิยาด ว่า อะบี อับดุลลอฮฺ อัลกุรชีย์ อันนีซาบูรีย์ นักอ่านที่สันโดษและฉลาด เป็นหนึ่งที่คนที่น่าเชื่อถือที่อิมามอัลบุคอรีย์และอิมามมุสลิมได้บันทึกจากการรายงานของเขา แต่ไม่ใช่บันทึกในหนังสือหะดีษเศาะหีหฺของเขาทั้งสอง และจากรายงานของอัตตีรมีซีย์ อิบนุมาญะฮฺและอิบนุคุไซมะฮฺ มีความเห็นเหมือนกันกับแนวของกลุ่มอุบัยด์ อิบนุหัรบะไวฮฺ และคนอื่นๆก็ได้รายงานมาเช่นนี้เช่นกัน ด้วยสายรายงานของเราจากหะดีษที่รายงานจากฟุร็อต อิบนุซาอีบ จากอัซซะฮฺริย์ ว่า อะนัซ อิบนุมาลิก ได้กล่าวว่า เราะซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้กล่าวว่า

إِنَّ رَجُلا مِمَّنْ قَبْلَكُمْ مَاتَ وَلَيْسَ مَعَهُ شَيْءٌ مِنْ كِتَابِ اللَّهِ عز وجل إِلا تَبَارَكَ، فَلَمَّا وُضِعَ فِي حُفْرَتِهِ أَتَاهُ الْمَلَكُ، فَثَارَتِ السُّورَةُ فِي وَجْهِهِ، فَقَالَ لَهَا : إِنَّكِ مِنْ كِتَابِ اللَّهِ، وَإِنِّي أَكْرَهُ مَسَاءَتَكِ، وَإِنِّي لا أَمْلِكُ لَكِ وَلا لَهُ وَلا لِنَفْسِي ضُرًّا وَلا نَفْعَا، فَإِنْ أَرَدْتِ هَذَا بِهِ فَانْطَلِقِي إِلَى الرَّبِّ تَبَارَكَ وَتَعَالَى فَاشْفَعِي لَهُ، فَتَنْطَلِقُ إِلَى الرَّبِّ، فَتَقُولُ : أَيْ رَبِّ، إِنَّ فُلانًا عَمَدَ إِلَيَّ مِنْ بَيْنِ كِتَابِكَ فَتَعَلَّمَنِي وَتَلانِي، أَفَتُحْرِقُهُ أَنْتَ بِالنَّارِ وَتُعَذِّبُهُ وَأَنَا فِي جَوْفِهِ؟ فَإِنْ كُنْتَ فَاعِلا ذَاكَ بِهِ، فَامْحُنِي مِنْ كِتَابِكَ، فَيَقُولُ : أَلا أَرَاكِ غَضِبْتِ؟ فَتَقُولُ : وَحُقَّ لِي أَنْ أَغْضَبَ، قَالَ : فَيَقُولُ : اذْهَبِي فَقَدْ وَهَبْتُهُ لَكِ وَشَفَّعْتُكِ فِيهِ، قَالَ : فَتَجِيءُ فَتَزْبُرُ الْمَلَكَ، فَيَخْرُجُ خَاسِفَ الْبَالِ لَمْ يَحُلْ مِنْهُ بِشَيْءٍ، قَالَ : فَتَجِيءُ فَتَضَعُ فَاهَا عَلَى فِيهِ، فَتَقُولُ : مَرْحَبًا بِهَذَا الْفَمِ فَرُبَّمَا تَلانِي، وَمَرْحَبًا بِهَذَا الصَّدْرِ فَرُبَّمَا وَعَانِي، وَمَرْحَبًا بِهَاتَيْنِ الْقَدَمَيْنِ فَرُبَّمَا قَامَتَا، وَتُؤْنِسُهُ فِي قَبْرِهِ مَخَافَةَ الْوَحْشَةِ عَلَيْهِ "، فَلَمَّا حَدَّثَ بِهَذَا رَسُولُ اللَّهِ عليه الصلاة والسلام لَمْ يَبْقَ صَغِيرٌ وَلا كَبِيرٌ، وَلا حُرٌّ وَلا عَبْدٌ بِالْمَدِينَةِ إِلا تَعَلَّمَهَا، وَسَمَّاهَا رَسُولُ اللَّهِ عليه الصلاة والسلام الْمُنْجِيَةَ

        (มีชายคนหนึ่งก่อนหน้าพวกเจ้า เขาได้เสียชีวิต และเขาไม่มีอะไรเลยจากอัลกุรอานนอกจาก "تَبَارَكَ"(ซูเราะฮฺ อัลมุลุก) เมื่อได้ฝังศพเขาไว้ในหลุมฝังศพ มะลาอิกะฮฺ(ที่มีหน้าที่มาลงโทษ)ก็มาหาเขา ซูเราะฮฺอัลมุลุกนี้ก็ปรากฎที่ใบหน้าของเขา (ขัดขวางการลงโทษของมะลาอิกะฮฺ) มะลาอิกะฮฺตนนั้นก็ได้กล่าวแก่ซูเราะฮฺนี้ว่า "เจ้านี้มาจากคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ฉันไม่ชอบทำสิ่งที่ไม่ดีแก่เจ้า ฉันไม่สามารถทำอะไรแก่เจ้า แก่เขาและแก่ตัวฉันทั้งที่เป็นสิ่งดีและสิ่งไม่ดี ถ้าเจ้าต้องการสิงนี้กับเขา(ป้องกันไม่ให้เขาถูกลงโทษ) เจ้าจงไปพบพระเจ้า ขอวิงวอนจากพระองค์" ซูเราะฮฺอัลมุลุกก็ไปหาพระเจ้าและกล่าวแก่พระองค์ว่า "โอ้พระเจ้าของฉัน นายคนนี้ตั้งใจเลือกฉันในคัมภีร์ของพระองค์ เขาศึกษาฉัน เขาอ่านฉัน พระองค์จะเผาเขาหรือ? ลงโทษเขาทั้งที่ฉันอยู่ในตัวเขา? หากพระองค์ทรงกระทำแบบนั้นกับฉัน ก็ขอให้พระองค์ลบฉันออกจากคัมภีร์ของพระองค์" อัลลอฮฺตรัสว่า "ฉันเห็นเจ้าโกรธ?" ซูเราะฮฺอัลมุลุกตอบว่า "ฉันควรโกรธ" อัลลอฮฺตรัสว่า "เจ้าจงไป ฉันมอบหมายให้แก่เจ้า เจ้าสามารถให้ชะฟาอัตให้แก่เขา" อิบนุอับบาซกล่าวว่า จากนั้นซูเราะฮฺอัลมุลุกก็กลับไปหาชายคนนั้นกับมะลาอิกะฮฺ และให้มะลาอิกะฮฺออกไป มะลาอิกะฮฺที่จะมาลงโทษนั้นก็ออกไป โทษภัยต่างๆก็ไม่สามารถให้แก่ชายคนนั้นได้ แล้วซูเราะฮฺอัลมุลุกก็วางริมฝีปากเขาบนริมฝีปากชายคนนั้น แล้วกล่าว่า "ยินดีต้อนรับกับริมฝีปากนี้ที่อ่านฉัน ยินดีต้อนรับกับอกนี้ที่บรรจุฉัน ยินดีต้อนรับกับขาสองข้างนี้ ที่ยืนเพื่อฉัน" และซูเราะฮฺอัลมุลุกให้ปลอดโปร่งแก่เขาในหลุมฝังศพของจากความกลัวที่เงียบเหงาที่เกิดขึ้นกับเขา อะนัซ อิบนุมาลิก กล่าวว่า เมื่อท่านเราะซูลุลลอฮฺ ﷺ ได้กล่าวหะดีษนี้ ไม่เว้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งข้าทาสและผู้ที่มีอิสรภาพ ทั้งหมดจะศึกษาซูเราะฮฺอัลมุลุนี้ และเราะซูลุลลอฺ ﷺ ให้ชื่อซูเราะฮฺนี้ว่า อัลมุนัจญิยะฮฺ(ผู้ทำให้รอดพ้น) )

            ฉัน(อิบนุ กะษีรฺ) เห็นว่า หะดีษนี้เป็นหะดีษมุนกัรฺอย่างยิ่ง(ไม่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง) สายรายงานที่ชื่อ อีมามอะหฺมัด ยะหฺยา อิบนุมะอีน อัลบุคอรีย์ อะบูหาติม อัดรุกุฏนีย์และคนอื่นๆ เห็นว่าฟุรร็อต อิบนุซาอิบ เป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือที่อ่อนมาก(เฎาะอีฟ) อิบนุอะซากิร ได้รายงานหะดีษนี้ในสายรายงานอื่น ที่รายงานโดย อัซซุฮฺรีย์ ด้วยคำพูดที่ย่อ และอัลไบหะกีย์ได้เขียนในหนังสือ "ยืนยันการลงโทษในหลุมฝังศพ" อิบนุมัสอูดได้รายงานเป็นหะดีษเมากูฟที่พาดพิงถึงเศาะหาบะฮฺและมีหะดีษที่เป็นมัรฺฟูอฺที่พาดพิงถึงเราะซูลุลลอฺ ﷺ และเรื่องนี้เราได้เขียนแล้วในหนังสือ .อัลญะนาอีซ มินัลอะหฺกามุลกุบรอ" 

ولله الحمد 

------------------------

[1] อัลมัซนัด ของอิมามอะหฺมัด เล่ม 2 หน้า 321, ซุนันอะบีดาวูด เลขที่ 1400, ซุนุนอัตติร มีซีย์ เลขที่ 2891, ซุนุนนอันนะซาอี เลขที่ 11612, และซุนุนอิบนุมาญะฮฺ เลขที่ 3786
[2] อัตฏ็อบรอนีย์, อัลมุอฺญัม อัศเศาะฆีรฺ, 1/176
[3] ซุนันอัตติรมีซีย์ เลขที่ 2890 ด้วยสายรายงานที่อ่อน และบางช่วงของหะดีษถูกปฏิเสธ
[4] ซุนันอัตติรมีซีย์ เลขที่ 2892
[5] อัลมุอฺญัม อัลกะบีรฺ เล่ม 11 หน้า 242, สายรายงานที่ชือ อิบรอฮีม อิบนุอัลหะดัม อิบนุอะบาน ความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับอ่อน(เฎาะอีฟ), อัล-อัลมานี ได้เขียนในหนังสือ "อัซซัลซิละอฺ อัฎเฎาะอีฟะฮฺ" เลขที่ 4747 ว่า หะดีษนี้เป็นหะดีษ เฎาะอีฟ ญิดดัน (อ่อนมากๆ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น