![]() |
| "แบ" กำลังเดินไปมัสยิด ไปละหมาด (ภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=365795) |
وَعَنْ أبي هُرَيْرَةَ رَضِيَ الله عنه قَالَ: قَالَ رَسُولُ الله صَلّى اللهُ عَلَيْهِ وسَلَّم:
"صَلاَةُ الرَّجُلِ في جماعةٍ تزيدُ عَلَى صَلاَتِهِ في سُوقِهِ وَبَيْتِهِ بضْعاً وعِشْرينَ دَرَجَةً، وذلِكَ أَنَّ أَحَدَهُمْ إِذا تَوَضَّأَ فَأَحْسَنَ الْوُضُوءَ، ثُمَّ أَتَى الْمَسْجِد لا يَنْهَزُهُ إِلاَّ الصَّلاَةُ، لا يُرِيدُ إِلاَّ الصَّلاَةَ، لَمْ يَخطُ خُطوَةً إِلاَّ رُفِعَ لَهُ بِها دَرجةٌ، وَحُطَّ عَنْهُ بِهَا خَطيئَةٌ حتَّى يَدْخلَ الْمَسْجِدَ، فَإِذَا دَخَلَ الْمَسْجِدَ كانَ في الصَّلاَةِ مَا كَانَتِ الصَّلاةُ هِيَ تحبِسُهُ، وَالْمَلائِكَةُ يُصَلُّونَ عَلَى أَحَدِكُمْ مَا دَامَ في مَجْلِسهِ الَّذي صَلَّى فِيهِ، يقُولُونَ: اللَّهُمَّ ارْحَمْهُ، اللَّهُمَّ اغْفِرْ لَهُ، اللَّهُمَّ تُبْ عَلَيْهِ، مالَمْ يُؤْذِ فِيهِ، مَا لَمْ يُحْدِثْ فِيهِ "
متفقٌ عليه، وهَذَا لَفْظُ مُسْلمٍ. وَقَوْلُهُ صَلّى اللهُ عَلَيْهِ وسَلَّم: "ينْهَزُهُ"هُوَ بِفتحِ الْياءِ وَالْهاءِ وَبالزَّاي: أَي يُخْرِجُهُ ويُنْهِضُهُ.
ความว่า :
รายงานจากอะบูฮุร็อยเราะฮฺ (รอฎิฯ)ว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า
“การละหมาดของชายคนหนึ่งที่ละหมาดร่วมกับบุคคลอื่น(ละหมาดญะมาอะฮฺ) จะมีบุญเพิ่มจากการละหมาดของเขาที่ร้านหรือที่บ้านมากกว่า 20 เท่า ถ้าเขาอาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์ แล้วเดินไปสู่มัสยิดไม่ได้ไปเพื่อสิ่งอื่นใด นอกจากเพื่อการละหมาดเท่านั้น เขาจะไม่ก้าวขาออกไปเว้นแต่เพื่อการละหมาด ก้าวของเขาที่ย่างแต่ละก้าวจะเพิ่มฐานะ(ผลบุญของตัวเอง)สูงไปเรื่อยๆตามจำนวนก้าวที่เขาเดิน และจะลบบาปที่ได้เกิดขึ้นกับตัวเขาจนกระทั่งเขาได้เข้าไปในมัสยิด เมื่อเขาได้เข้าไปในมัสยิดแล้ว เขาก็จะได้รับบุญอย่างที่เขาละหมาด และการละหมาดได้ตรึงตัวเขาให้อยู่ในมัสยิด บรรดามะลาอิกะฮฺก็ขอดุอาให้แก่คนหนึ่งในพวกเจ้า ตราบใดที่เขาอยู่ในสถานที่เขาละหมาด โดยกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงเมตตาแก่เขา โอ้อัลลอฮฺขอพระองค์ทรงยกโทษแก่เขา โอ้อัลลอฮฺขอพระองค์ทรงลุโทษแก่เขา” ตราบใดที่เขาไม่กระทำในสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น – ไม่พูดคุยเรื่องทางโลก ไม่เล่ากล่าวนินทาผู้อื่น ไม่ทำร้ายกัน และอื่นๆ – และเขายังคงอยู่ในสภาพที่ไม่เสียน้ำละหมาด”
มุตตะฟะกุนอะลัยฮฺ (บันทึกโดยทั้งอัลบุคอรีและมุสลิม) และบทหะดีษนี้เป็นบทบันทึกของมุสลิม
เราะซูลุลลอฮฺ ใช้คำ«يَنْهَزُهُ » โดยใช้เครื่องหมาย ฟัตฮะห์ ـَ (สระอะ) ตรงตัวอักษร ي ยาอฺ هـ ฮาอฺ และใช้อักษร ز ซัย หมายถึง ออกไปและก้าวไปข้างหน้า
----------------------------------------------
คำอธิบายหะดีษ
- คนๆหนึ่งละหมาดร่วมกับคนอื่นในมัสยิด เขาจะได้รับผลบุญมากกว่าที่เขาละหมาดที่บ้านหรือที่ร้านค้าที่เขาทำงานอยู่ 25 ถึง 27 เท่า
- ความเห็นของอุลามาอฺที่เป็นที่น่าเชื่อถือและยอมรับกันทั่วว่า การละหมาดร่วม(ญะมาอะฮฺ)เป็นสิ่งที่ต้องกระทำ แม้จะไม่สามารถกระทำทุกคน แต่ในชุมชนหนึ่งต้องมีคนกลุ่มหนึ่งที่กระทำ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าชนในชุมชนนั้นจะมีความผิด(บาป)
- อัลลอฮฺได้ตรัสให้เห็นชัดว่าการละหมาดร่วมหรือญะมาอะฮฺนั้นเป็นสิ่งที่มุสลิมทุกคนควรกระทำอย่างยิ่ง โดยที่พระองค์ได้ตรัสในอายะฮฺฝที่ 102 ในซูเราะฮฺ อันนิสาอฺ ว่า
وَإِذَا كُنتَ فِيهِمۡ فَأَقَمۡتَ لَهُمُ ٱلصَّلَوٰةَ فَلۡتَقُمۡ طَآئِفَةٞ مِّنۡهُم مَّعَكَ
(และเมื่อเจ้าอยู่ในหมู่พวกเขา แล้วเจ้าจงให้มีการปฏิบัติละหมาดขึ้นแก่พวกเขา แล้วกลุ่มหนึ่งจากพวกเจาก็จงยืนละหมาดร่วมกับเจ้า...)(อันนิซาอฺ 4:102)
อายะฮฺนี้เป็นการใช้ให้ละหมาดในระหว่างการทำสงคราม จะเห็นว่าแม้กระทั่งในสงครามอัลลอฮฺยังใช้ให้ละหมาดญะมาอะฮฺ(ร่วมกัน) ในภาวะเกรงกลัวเช่นนั้นก็ยังให้ละหมาดร่วมกัน พร้อมๆกัน ดังนั้นจึงไม่เป็นสิ่งแปลกอันใดเลยว่าในภาวะปกติจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องละหมาดร่วมกันหรือญะมาอะฮฺ
- การละหมาดที่ร้านหรือที่ทำงานสามารถทำได้และถือว่าไม่ผิด แต่ไม่สนับสนุนให้กระทำเช่นนั้น เพราะหน้าที่หลักของผู้ชายในการละหมาดคือละหมาดที่มัสยิดหรือละหมาดร่วมกับบุคคลอื่น(ญะมาอะฮฺ)
- การที่จะนับว่าบุคคลคนนั้นจะได้บุญมากเกินกว่า 20 กว่าเท่าเช่นนี้ และได้ผลบุญอื่นๆอีกมากมายถ้าเขาได้ประพฤติปฏิบัติดังนี้
- อาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์ ทุกขั้นตอนครบตามที่ท่านนบีได้สอนและทำเป็นแบบอย่างไว้ (إِذا تَوَضَّأَ فَأَحْسَنَ الْوُضُوءَ : เมื่ออาบน้ำละหมาด ทำให้ได้น้ำละหมาดที่ดีที่สุด)
- ตั้งใจหรือเนียตอย่างแน่วแน่ว่า เดินไปสู่มัสยิดนั้น ไม่ใช่เพื่ออื่นใด ไม่ใช่ไปเพราะจะไปซื้อของแล้วแวะละหมาด ไม่ใช่ไปเพราะอยากพบเพื่อนและได้ละหมาดด้วย แต่การไปนั้นต้องเพื่อละหมาดเป็นจุดประสงค์หลัก (ثُمَّ أَتَى الْمَسْجِد لا يُرِيدُ إِلاَّ الصَّلاَةَ : แล้วเขาไปยังมัสยิดไม่ต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากละหมาด)
- ก้าวเท้าที่ละก้าว ที่ทำให้ตัวเคลื่อนไปข้างหน้า ต้องเพื่อมุ่งสู่ที่ละหมาดเท่านั้น (لا يَنْهَزُهُ إِلاَّ الصَّلاَةُ : ไม่เคลื่อนไหวไปข้างหน้าเว้นแต่เพื่อการละหมาด)
- เมื่อจิตใจเขามุ่งมั่นกับการไปเพื่อละหมาดอย่างเดียวเช่นนั้นแล้ว เขาก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดี ได้รับระดับขั้นที่สูงขึ้นเป็นขั้นๆ (لَمْ يَخطُ خُطوَةً إِلاَّ رُفِعَ لَهُ بِها دَرجةٌ : จะไม่ย่างก้าวทีละก้าว-อย่างสูญเปล่า-เว้นแต่เขาจะได้รับการยกฐานะผลบุญในแต่ละก้าวที่ก้าว)
- บาปเล็ก บาปน้อย ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ก็จะถูกลบล้างไปกับย่างก้าวที่ก้าวไปยังมัสยิดด้วย ( وَحُطَّ عَنْهُ بِهَا خَطيئَةٌ حتَّى يَدْخلَ الْمَسْجِدَ: และลบบาปที่ได้เกิดขึ้นกับตัวเขาจนกระทั่งเขาได้เข้าไปในมัสยิด)
- เมื่อเดินเข้าไปในมัสยิดแล้ว เขารอการละหมาดเขาก็จะได้รับบุญเหมือนกับการละหมาดทันทีและมะลาอีกะฮฺก็จะขอพรให้ทันที ทั้งที่ขอให้เราะฮฺมัตความเมตตาจากอัลลอฮฺ ให้อัลลอฮฺยกโทษ และให้อัลลอฮฺเตาบัตให้
บทเรียนจากหะดีษ
- พื้นฐานการละหมาดสำหรับมุสลิมจะต้องละหมาดญะมาอะฮฺ(ละหมาดร่วมกับบุคคลอื่น) เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ส่วนมุสลิมะฮฺที่ยึดมั่นในคำตรัสของอัลลอฮฺอายะอฺที่ 33 ซูเราะฮฺ อัลอะหฺซาบ ที่ว่า
وَقَرۡنَ فِي بُيُوتِكُنَّ وَلَا تَبَرَّجۡنَ تَبَرُّجَ ٱلۡجَٰهِلِيَّةِ ٱلۡأُولَىٰۖ
(และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอและอย่าได้โออวดความงาม (ของพวกเธอ) เช่น การอวดความงาม (ของพวกสตรี) แห่งสมัยงมงายในยุคแรก)(อัลอะหฺซาบ 33:33)
การละหมาดในห้องส่วนตัวของนางย่อมดีกว่าละหมาดนอกบ้าน[1] แต่มุสลิมะฮฺทุกวันนี้ด้วยเหตุผลจำเป็นที่จะต้องออกนอกบ้าน การละหมาดญะมาอะฮฺย่อมดีกว่า เพราะผลบุญที่จะได้รับมากกว่า 25 เท่า
- ละหมาดที่ร้านหรือทีทำงานสามารถทีี่จะทำได้ แต่อิสลามไม่สนับสนุนให้กระทำเช่นนั้น(มักรูฮฺ) เพราะการละหมาดที่ร้านหรือที่ทำงานนั้้นอาจทำให้จิตใจไม่สงบ ไม่มั่นคงที่กับอัลลอฮฺในเวลาละหมาด และอาจจะขาดการสัมพันธ์สร้างเสริมอีมานกับบุคคลมุมินด้วยกัน
- ละหมาดญะมาอะฮฺ(ละหมาดร่วมกัน)ดีกว่าละหมาดคนเดียวมากว่า 25 ถึง 27 เท่า ตามที่ได้กล่าวถึงในบางรายงาน
- ความบริสุทธิใจ(อิคลาศ)เป็นสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งที่เป็นเงื่อนไขหลักที่จะได้รับผลบุญจากการกระทำนั้นๆ
- การละหมาดจะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการงานอื่นๆ ดังที่พบในหะดีษนี้ว่ามะลาอิกะฮฺจะดุอาให้แก่คนที่ละหมาดและคนที่รอละหมาดตราบใดที่เขาไม่เสียน้ำละหมาด
-----------------------------------------------------------------
عَنْ أُمِّ حُمَيْدٍ امْرَأَةِ أَبِي حُمَيْدٍ السَّاعِدِيِّ ، أَنَّهَا جَاءَتْ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم ، فَقَالَتْ :
يَا رَسُولَ اللَّهِ، إِنِّي أُحِبُّ الصَّلَاةَ مَعَكَ ؟ قَالَ : " قَدْ عَلِمْتُ أَنَّكِ تُحِبِّينَ الصَّلَاةَ مَعي , وَصَلَاتُكِ فِي بَيْتِكِ خَيْرٌ لَكِ مِنْ صَلَاتِكِ فِي حُجْرَتِكِ ، وَصَلَاتُكِ فِي حُجْرَتِكِ خَيْرٌ مِنْ صَلَاتِكِ فِي دَارِك ، وَصَلَاتُكِ فِي دَارِكِ خَيْرٌ لَكِ مِنْ صَلَاتِكِ فِي مَسْجِدِ قَوْمِكِ ، وَصَلَاتُكِ فِي مَسْجِدِ قَوْمِكِ خَيْرٌ لَكِ مِنْ صَلَاتِكِ فِي مَسْجِدِي "
(อุมมุหุมัยดฺ ภรรยา อะบู หะมัยดฺ อัซซาอิดียฺ ได้เล่าว่า เขาได้ไปหาท่านนบี(ศ็อลฯ) และกล่าวกับท่านนบีว่า
"โอ้เราะซูลุลลอฮฺ ฉันชอบที่จะละหมาดกับท่าน" ท่านนบี(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า "ฉันรู้ว่าเจ้ารักการละหมาดกับฉัน และการละหมาดของเจ้าที่บ้านของเจ้าดีกว่าละหมาดของเจ้าในห้องของเจ้า การละหมาดของเจ้าในห้องของเจ้าดีกว่าการละหมาดของเจ้าในเรือนของเจ้า การละหลาดของเจ้าในเรือนของเจ้าดีกว่าการกละหมาดของเจ้าในมัสยิดของพรรคพวกของเจ้า และการละหมาดในมัสยิดของเจ้าดีกว่าการละหมาดของเจ้าในมัสยิดของฉัน" )(อะหฺมัด : 26550)
บ้านในที่นี้หมายถึงห้องหรือมุมเฉพาะสำหรับสตรี และห้องในที่นี้หมายถึงลานบนบ้านหรือหรือที่เรียกสมัยนี้ว่าห้องโถง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น