ความประเสริฐของซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ
อิมามอะหฺมัด อิบนุ มุหัมมัด อิบนุ หัมบัล-เราะหิมะฮุลลอฮุตะอาลา- ในหนังสือมุซนัดของท่าน ว่า ยะหฺยา อิบนุ ซะอีด ได้บอกแก่เราว่า ยะหฺยา อิบนุ ซะอีด ชุอฺบุฮฺ ได้รายงานว่า หะบีบ อิบนุ อับดุรเราะมาน ได้บอกแก่ฉันว่า จากหัฟศิน อิบนุ อาศิม จาก อะบู ซะอีด อิบนุ อัลมุอัลลา-เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
“ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ได้เรียกฉันระหว่างที่ฉันละหมาดอยู่ ฉันไม่ได้ไปหาท่านจนกว่าฉันละหมาดเสร็จ” แล้วเขากล่าวอีกว่า
“ฉันได้ไปหาท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺ แล้วท่านถามฉันว่า :
“อะไรทำให้เจ้าไม่มาหาฉัน?”
ฉันก็ตอบท่านว่า : “โอ้..เราะซูลุลลอฮฺ แท้จริงฉันกำลังละหมาดอยู่”
แล้วท่านก็กล่าวว่า
“อัลลอฮฺไม่ได้ตรัสว่า
يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ ٱسۡتَجِيبُواْ لِلَّهِ وَلِلرَّسُولِ إِذَا دَعَاكُمۡ لِمَا يُحۡيِيكُمۡۖ
(บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงตอบรับอัลลอฮฺ และเราะซูลเถิด เมื่อเขาได้เชิญชวนพวกเจ้าสู่สิ่งที่ทำให้พวกเจ้ามีชีวิตชีวาขึ้น) (อัลอันฟาล 8:24)”
แล้วท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺได้กล่าวอีกว่า
“ฉันจะบอกเจ้าซูเราะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก่อนที่เจ้าจะออกจากมัสยิด”
แล้วท่านก็จับมือฉัน และเมื่อฉันจะออกจากมัสยิด ฉันก็กล่าวว่า
“โอ้เราะซูลุลลอฮฺ ท่านพูดว่า “ฉันจะบอกเจ้าซูเราะฮฺที่ใหญ่ที่สุดในอัลกุรอาน””
ท่านเราะซูลุลลอฮฺ กล่าว่า
" نَعَمْ.. الْحَمْد لِلَّهِ رَبّ الْعَالَمِينَ " هِيَ السَّبْع الْمَثَانِي وَالْقُرْآن الْعَظِيم الَّذِي أُوتِيته "
(ใช่.. อัลหัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน คือ อัซซับอะ อัลมะษานีย์ และอัล
กุรอานที่ยิ่งใหญ่ ที่ได้ให้แก่ฉัน) (อะหฺมัด, อัลมุซนัด : 3/450)
อัลบุคอรีย์ได้บันทึกเช่นนี้เช่นกัน จากรายงานของ มุซัดดัดและอะลี อิบนุ อัลมะดีนีย์ ซึ่งทั้งสองได้รับรายงานจาก ยะหฺยา อิบนุ ซะอีด อัลก็อฏฏอน (อัลบุคอรีย์ :4473,5006)
และอีกรายงานหนึ่งของอิมามอัลบุคอรีย์ ที่บันทึกในตัฟซีรฺของเขา (อัลบุคอรีย์ :4647,4703)
อะบูดาวูด, อันนะซาอีย์และอิบนุมาญะฮฺ ได้บันทึกหะดีษนี้จากรายงานของ ชุอฺบะฮฺ (อะบูดาวูด :1458, อันนะซาอีย์ :2/139, อิบนุมาญะฮฺ :3785)
อัลวากิดีย์ ได้รายงานหะดีษในลักษณะนี้เช่นกัน โดยได้รับรายงานจาก มุหัมมัด อิบนุ มุอาซฺ อัลอันศอรีย์ รับรายงานจาก คุไบบ์ อิบนุ อับดุรฺเราะฮฺมาน รับรายงานจาก หัฟศิน อิบนุ อาศิม รับรายงานจาก ซะอีด อิบนุ อัลมุอัลลา รับรายงานจาก อุไบย์ อิบนุ กะอฺบิน
ในหนังสือ อัลมุวัฏเฏาะ ของอีมาม มาลิก อิบนุ อะนัซ -เราะฮิมะฮุลลอฮฺ- ซึ่งเป็นหะดีษที่ควรสังเกต
อิมาม มาลิก ได้รายงานว่า อะลาอฺ อิบนุ อับดุรเราะฮฺมาน อิบนุยะอฺกูบ อัลหะเราะกีย์ ได้รายงานว่า อะบู ซะอีด เมาลา อิบนุ อามิรฺ อิบนุ กุรอซ ได้บอกแก่พวกเขาว่า เราะซูลุลลอฮฺﷺได้เรียก อุไบย์ อิบนุ กะอับ ซึ่งอุไบย์ กำลังละหมาดอยู่มัสยิด และเมื่ออุไบย์ ได้เสร็จสิ้นจากการละหมาด เขาก็ได้ไปพบท่านเราะซูลลุลลอฮฺﷺท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺได้วางมือของท่านบนมือสองข้างของอุไบย์ ซึ่งอุไบย์ต้องการที่จะเดินไปยังประตูเพื่อที่จะออกจากมัสยิด ท่านนบี(ศอลฯ)ก็กล่าวว่า
" إِنِّي لَأَرْجُو أَنْ لَا تَخْرُج مِنْ بَاب الْمَسْجِد حَتَّى تَعْلَم سُورَة مَا أُنْزِلَ فِي التَّوْرَاة وَلَا فِي الْإِنْجِيل وَلَا فِي الْقُرْآن مِثْلهَا "
(ฉันขอให้เจ้าอย่าออกจากมัสยิด จนกว่าฉันจะสอนเจ้า ซูเราะฮฺที่ไม่เคยประทานลงมาผ่านคัมภีร์อัตเตาเราะฮฺ หรือคัมภีร์อินญีล หรือแม้แต่ในอัลกุรอานเหมือนกับซูเราะฮฺนี้)
อุไบย์-เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ-ได้กล่าวว่า “ฉันก็ได้เดินช้าๆหวังที่จะได้เรียนรู้ในสิ่งนั้น แล้วฉันก็พูดว่า : โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ซูเราะฮฺอะไรครับที่ท่านได้สัญญากับฉัน”
ท่านถามว่า “แล้วเจ้าอ่านอะไรเป็นการเปิดการละหมาด?”
อุไบย์ตอบว่า “ฉันอ่านอัลหัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน.. แล้วฉันอ่านจนจบซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ”
ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ก็ได้กล่าวว่า
" هِيَ هَذِهِ السُّورَة وَهِيَ السَّبْع الْمَثَانِي وَالْقُرْآن الْعَظِيم الَّذِي أُعْطِيت "
(มันก็คือซูเราะฮฺ-ที่เจ้าอ่าน-นี้ มันเป็นอัซซับอุ อัลมะษานีย์ ที่อ่านซ้ำๆ และมันเป็นอัลกุรอานที่ยิ่งใหญ่ ที่ได้ประทานมาให้แก่ฉัน) (มาลิก, อัลมุวัฏเฏาะ :1/83)
อะบูซะอีดที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ไม่ใช่ อะบูซะอีด อัลมุอัลลา อย่างที่ อิบนุ อะษีร เชื่อในหนังสือญามิอุลลอุศูล และคนที่เห็นด้วยกับเขา เพราะอิบนุ อัลมุอัลลา เป็นเศาะหาบะฮฺกลุ่มอันศอรฺ แต่อะบูซะอีดคนนี้เป็นตาบิอีนจากชนคุซาอะฮฺ หะดีษแรกที่กล่าวมานั้นเป็นหะดีษมุตตะศิลที่เศาะหีหฺเชื่อถือได้ ส่วนหะดีษที่ได้เห็นนี้เป็นหะดีษมุงเกาะฏิอฺ(สิ้นสุดการรายงานที่ตาบิอีน) แน่นอนอะบูซะอีดไม่สามารถที่จะฟังรายงานโดยตรงจากอุไบย์ อิบนุกะอับได้ แต่ถ้าเขาได้ฟังก็จะเข้าประเด็นบนเงื่อนไขของมุสลิ .. วัลลอฮุอะอฺลัม(อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงรู้)
อิมามอะหฺมัดกล่าวว่า หะดีษที่รายงานจาก อุไบย์ อิบนุ กะอับนี้ ไม่ได้มีสายงานเพียงสายเดียวเท่านั้น ท่านกล่าวว่า
อัฟฟาน ได้กล่าวแก่เราว่า อับดุรเราะฮฺมาน อิบนุ อิบรอฮีม ได้กล่าวแก่เราว่า อัลอะลาอฺ อิบนุ อับดุรเราะฮฺมาน ได้รายงานวา บิดาของเขาได้กล่าวว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺได้รายงานว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ได้ออกไปพบกับ อุไบย์ อิบนุ กะอับ ซึ่งกำลังละหมาดอยู่ แล้วท่านก็ได้เรียกอุไบย์ว่า
“โอ้อุไบย์” อุไบย์หันมาแต่ไม่ตอบรับคำเรียกนั้น
อุไบย์เล่าว่า จากนั้นเขาก็ละหมาดให้สั้นลง เมื่อเสร็จละหมาดเขาก็ไปหาเราะซูลุลลอฮฺﷺ แล้วให้สลามแก่ท่านเราะซูลุลลอฮฺว่า
“อัสสะลามุอะลัยกะ ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน.. โอ้เราะซูลุลลอฮฺ”
ท่านเราะซูลุลลอฮฺก็ตอบว่า
“วะอะลัยกัซซะลาม เช่นกันขอสันติสุขจงมีแด่เจ้า .. อะไรทำไปห้ามเจ้าที่จะตอบรับฉันเมื่อฉันเรียกเจ้า โอ้อุไบย์”
อุไบย์ตอบว่า “โอ้เราะซูลุลลอฮฺ ฉันละหมาดอยู่”
ท่านเราะซูลลุลลอฮฺ กล่าวว่า “เจ้าไม่เคยพบหรือไงที่อัลลอฮฺประทานแก่ฉัน ที่พระองค์ตรัสว่า
يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ ٱسۡتَجِيبُواْ لِلَّهِ وَلِلرَّسُولِ إِذَا دَعَاكُمۡ لِمَا يُحۡيِيكُمۡۖ
(บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงตอบรับอัลลอฮฺ และเราะซูลเถิด เมื่อเขาได้เชิญชวนพวกเจ้าสู่สิ่งที่ทำให้พวกเจ้ามีชีวิตชีวาขึ้น) (อัลอันฟาล 8:24)”
อุไบย์ ตอบว่า “มิได้ครับท่านเราะซูลุลลอฮฺ และฉันจะไม่ทำอีก”
เราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) กล่าวว่า
“เจ้าจะให้ฉันสอนเจ้าไหม ซูเราะฮฺที่ไม่เคยถูกประทานลงมาในคัมภีร์อัตเตาเราะฮฺ ไม่เคยถูกประทานมาในคัมภีร์อัลอินญีลและในคัมภีร์ซะบูรฺ แม้แต่ในอัลฟุรกอน(อัลกุรอาน)ก็ไม่มีซูเราะฮฺใดเสมือนซูเราะฮฺนี้?”
อุไบย์ตอบว่า “ครับ(ต้องการ) ท่านเราะซูลุลลอฮฺ”
ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า
“ฉันหวังว่าฉันไม่ออกจากประตู(มัสยิด)นี้จนกว่าฉันจะสอนเจ้า”
อุไบย์ก็เล่าต่อว่า “ท่านเราะซูลุลลอฮฺได้จับมือฉัน พูดคุยกับฉัน และฉันก็เดินช้าๆ เกรงว่าจะถึงประตูมัสยิดก่อนท่านจะให้หะดีษของท่าน และเมื่อใกล้กับประตูมัสยิด ฉันก็ถามท่านว่า โอ้เราะซูลุลลอฮฺ ซูเราะฮฺอะไรครับที่ท่านสัญญากับฉัน”
ท่านกล่าวว่า “เจ้าอ่านอะไรในละหมาด”
" وَاَلَّذِي نَفْسِي بِيَدِهِ مَا أَنْزَلَ اللَّه فِي التَّوْرَاة وَلَا فِي الْإِنْجِيل وَلَا فِي الزَّبُور وَلَا فِي الْفُرْقَان مِثْلهَا إِنَّهَا السَّبْع الْمَثَانِي "
(ฉันขอสามบานด้วยผู้ทรงครอบครองชีวิตฉันในมือพระองค์ อัลลอฮฺไม่เคยประทานลงมาในคัมภีร์อัตเตาเราะฮฺ ไม่เคยประทานในคัมภีร์อัลอินญิล ไม่เคยประทานในคัมภีร์อัซซะบูรฺ และไม่เคยประทานลงมาในอัลฟุรกอน(อัลกุรอาน) เหมือนอย่างซูเราะฮฺนี้ มันคือ อัซซับอฺ อัลมะษานีย์(ซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ))
อัตติรมีซีย์ได้รายงานว่า รายงานจากกุไตบะฮฺซึ่งได้รับจากอัดดะรอวัรดีย์ จากอะลาอีย์ จากบิดาของเขาว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ได้รายงานมาเช่นนี้ (อะหฺมัด :2/412, อัตติรมีซีย์ :2878)
และในรายงานของอัตตัรมีซีย์
" إِنَّهَا مِنْ السَّبْع الْمَثَانِي وَالْقُرْآن الْعَظِيم الَّذِي أُعْطِيته"
(มันคืออัซซับอุ อัลมะษานีย์(7 อายาตที่อ่านซ้ำๆ) และอัลกุรอานที่ยิ่งใหญ่ที่ได้ประทานมาให้แก่ฉัน) และท่านกล่าวว่า หะดีษนี้เป็นหะดีษที่ดีและน่าเชื่อถือ(หะซัน เศาะหีหฺ)
ในเรื่องเดียวกันนี้ อะนัซ อิบนุ มาลิก ได้รายงานว่า อับดุลลอฮฺ อิบนุ อิมามอะหฺมัด รายงานว่า มีรายงานจาก อิสมาอีล อิบนุ อะบูมะอฺมะรฺ ได้รับรายงานจาก อุซามะฮฺ ซึ่งได้รับรายงานจาก อับดุลหะมีด อิบนุ ยะอฺฟัรฺ ได้รับรายงานจากบิดาของท่านที่ได้รับรายงานจาก อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ที่ได้รับรายงานจากอุไบย์ อิบนุ กะอับ ด้วยหะดีษที่ยาวในลักษณะเดียวกันหรือคล้ายๆกัน
อัตติรมีซีย์และอันนิซาอีย์ทั้งสองได้รายงานว่า อะบูอัมมารฺ ซุไซน์ อิบนุ หุไรษฺ ได้รายงานจาก อัลฟัฎลุ อิบนุ มูซา ซึ่งได้รับรายงานจาก อับดุลหะมีด อิบนุ ญะอฺฟัรฺ จาก อัลอะลาอฺ จากบิดาของเขา ว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ได้รายงานว่า อุไบย์ อิบนุ กะอับ ได้กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า
"อัลลอฮฺไม่ได้ประทานลงมาในคัมภีร์อัตเตาเราะฮฺ และไม่ได้ประทานลงมในคัมภีร์อัลอินญีล เหมือนอย่างอุมมุลกุรอาน(ซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ) มันคือ 7 อายาตที่อ่านซ้ำๆ และมันได้แบ่งระหว่างฉัน(อัลลอฮฺ)กับบ่าวของฉันสองส่วน"
บทหะดีษนีบันทึกโดย อันนะซาอีย์ และอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดีษนี้ เป็นหะดีษที่ดี(หะซัน)และโดดเดียว(เฆาะรีบ)
อิมามอะหฺมัด ได้กล่าวว่า มุหัมมัด อิบนุ อุไบดฺ ได้กล่าวแก่เราว่า ฮาชิม หมายถึง อิบนุ อัลบะรีด ได้กล่าวแก่เราว่า อับดุลลอฮฺ อิบนุ มุหัมมัด อิบนุ อะกีล ได้กล่าวแก่เราว่า อิบนุญาบิรฺ ได้กล่าวว่า “ฉันได้มาถึงที่เราะซูลุลลอฮฺﷺ ซึ่งในเวลานั้นท่านกำลังรินน้ำ(เพื่ออาบน้ำละหมาด) ฉันก็ให้สลามแก่ท่าน “อัสสาลามุอะลัยกะ โอ้เราะซูลุลลอฮฺ” ท่านไม่ตอบสาลามฉัน ฉันก็ให้สลามใหม่ “อัสสาลามุอะลัยกะ โอ้เราะซูลุลลอฮฺ” ท่านก็ไม่ตอบ ฉันก็ให้สลามอีก “อัสสาลามุอะลัยกะ โอ้เราะซูลุลลอฮฺ” ท่านก็ไม่ตอบ จากนั้นท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺก็ได้เดินจากไป ฉันก็เดินตามหลังท่าน จนกระทั้งท่านได้เข้าไปอยู่ ณ ที่พักของท่าน ฉันก็เข้าไปในมัสยิด นั่งในมัสยิดด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจ แล้วท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ﷺก็ได้ออกมา ด้วยสภาพที่ได้อาบน้ำละหมาดเรียบร้อยแล้ว แล้วท่านก็กล่าวว่า “วะอะลัยกะซะลาม วะเราะฮฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ วะอะลัยกะซะลาม วะเราะฮฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ วะอะลัยกะซะลาม วะเราะฮฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ” จากนั้นท่านก็กล่าวกับฉันว่า
“เจ้าจะเอาไหม ถ้าฉันจะบอกแก่เจ้า โอ้อับดุลลอฮฺ อิบนุญาบิรฺ ซูเราะฮฺในอัลกุรอานที่ดีที่สุด”
ฉันก็ตอบว่า “เอาแน่นอนครับ ท่านเราะซูลุลลอฮฺ”
ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ก็กล่าวว่า
“เจ้าจงอ่าน อัลหัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน(ซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ) จนจบซูเราะฮฺ”” (อะหฺมัด, อัลมัซนัด : 4/117)
หะดีษนี้มีสายรายงานที่ดี(ญัยยิด)
และอิบนุ อะกีล ที่มีอยู่ในสายรายงานหะดีษนี้ เป็นคนที่บรรดาอิมามที่เป็นที่รู้จักใช้อ้างอิง และอับดุลลอฮฺ อิบนุ ญาบิรฺ เป็นเศาหาบะฮฺนบี อิบนุลเญาซีย์กล่าวว่า เขาเป็นคนมาจากเผ่าอัลอับดีย์.. วัลลอฮุอะอฺลัม
อัลหาฟิซ อิบนุ อะซากิรฺ กล่าวว่า อับดุลลอฮฺ อิบนุ ญาบิรฺ นี้เป็นชนอันศอรฺ อัลบะยาฎี
บางคนได้นำหะดีษนี้และหะดีษที่คล้ายๆนี้มาเป็นหลักในการให้ความสำคัญแก่บางอายาตและบางซูเราะฮฺที่มีอยู่เหนือกว่าบางอายาตและบางซูเราะฮฺ อย่างที่เล่ามาโดยบรรดาอุลามาอฺจำนวนไม่น้อย เช่น อิสหาก อิบนุ รอฮฺไวฮฺ อะบูบักรฺ อิบนุ อัลอะรอบีย์ และอิบนุลหัฟฟารฺ ในกลุ่มมัซฮับอิมามอัลมาลิกีย์
แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่ให้ความเลื่อมล้ำระหว่างอายะฮฺหรือซูเราะฮฺด้วยกัน เพราะพวกเขาถือว่าทั้งหมดนั้นเป็นคำดำรัสของอัลลอฮฺ เพื่อที่จะไม่ทำให้เมื่อให้ความสำคัญกับอายะฮฺนี้ทำให้อายะฮฺอื่นลดความลง อายะฮฺทุกอายะฮฺมีความสำคัญทั้งนั้น ความเห็นนี้ได้กล่าวโดย อัลกุรฏุบีย์ ที่คัดลอกมาจาก อัลอัชอะรีย์, อะบูบักรฺ อัลบากิลลานีย์, อะบู หาติบ อิบนุ หิบบาน อัลบุซตีย์, อะบูหัยยยาน, ยะหยยา อิบนุ ยะหยา และอิมามมาลิก็ได้รายงานมาเช่นนี้เช่นกัน
หะดีษอื่น อัลบุคอรีย์ได้กล่าวในเรื่องความประเสริฐของอัลกุรอาน ว่า มุหัมมัด อิบนุ อัลมุษันนา ได้บอกแก่เราว่า วะฮับ ได้บอกแก่เราว่า ฮิชาม ได้บอกแก่เรว่า มุหัมมัด อิบนุ ชะอีด ได้รายงานว่า อะบู อัลคุดรีย์ ได้กล่าวว่า
“ระหว่างที่เราเดินทางอยู่ เราได้หยุดพัก ณ ที่แห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นก็มีสาวใช้คนหนึ่งมาหาเราแล้วพูดกับเราว่า ผู้นำหมู่บ้านซึ่งมีสุขภาพดีถูกสัตว์ที่เราไม่รู้จักกัด พวกท่านมีใครที่สามารถรักษาด้วยการปัดเปาได้บ้าง? ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้ลุกไปกับนาง เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาสามารถที่จะรักษาคนด้วยการปัดเปาได้ แล้วชายคนนั้นก็ได้ปัดเปาหัวหน้ากลุ่มนั้น ทำให้อาการบาดเจ็บของหัวหน้ากลุ่มหายได้ เขาได้มอบแกะแก่ชายที่ปัดเปานั้น 30 ตัว และได้เลี้ยงนมสดแก่เรา เมื่อชายหนุ่มคนนั้นกลับมา เราก็ได้ถามเขาว่า
“เจ้าสามารถปัดเปาได้หรือเจ้ารู้วิธีปัดเปา”
เขาตอบว่า “ไม่ ฉันไม่ได้ปัดเปาอะไร นอกจากฉันอ่านอุมมุลกิตาบ(ซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺ”
เราก็พูดว่า “พวกเจ้าไม่ต้องพูดอะไร จนกว่าไปหาและถามท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺ”
เมื่อเรามาถึงมะดีนะฮฺ เราก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ท่านนบีﷺ แล้วท่านนบบีกล่าวว่า
"อะไรไปสอนให้เขารู้ว่าซูเราะฮฺอัลฟาติหะฮฺนี้สามารถใช้รักษาแบบปัดเปาได้ พวกเจ้าจงแบ่งให้แก่ฉันด้วย"
อะบู มะอฺมัรฺ ได้กล่าวว่า อับดุลวาริษ ได้บอกแก่เราว่า ฮิชามได้บอกแก่เราว่า มุหัมัด อิบน ซีรีน ได้บอกแก่เราว่า มะอฺบัด อิบนุ ซีรีน ได้บอกแก่ฉันว่า อะบูซะอีด อัลคุดรีย์ ได้รายงานมาเช่นนี้เช่นกัน (อัลบุคอรีย์ :5007, มุสลิม :2001)
มุสลิมและอะบูดาวูดก็ได้รายงานมาเช่นนี้เช่นกัน จากรายงานของ ฮีชาม คือ อิบนุหิซาน ซึ่งได้รับรายงานจาก อิบนุซีรีน และในบางรายงานของบันทึกของมุสลิมในหะดีษนี้ กล่าวว่า ซะอีด อัลคุดรีย์ คือ ผู้ทำการปัดเปาชายที่มีสุขภาพดี หมายถึง ชายที่โดนสัตว์กัดหรือต่อยด้วยเสี้ยม ที่เรียกว่าสุขภาพดีนี้หวังว่าเขาจะหายดี
อีกหะดีษหนึ่งที่บันทึกโดยมุสลิมในหนังสือเศาะหีหฺของท่าน และอันนะซาอีย์ ในหนังสือซุนันนของท่าน เป็นหะดีษที่รายงานดดย อะบี อัลอะหฺวัศ ซะลาม อิบนุ ซะลีม ได้รับรายงานจาก อัมมารฺ อิบนุ ซุรอยกฺ ซึ่งได้รับรายงานจาก อับดุลลอฮฺ อิบนุ อีซา อิบนุ อับดุรเราะฮฺมาน อิบนุ อะบู ไลลา ว่า ซะอีด อิบนุ ญุไบร์ ได้รายงานว่า อิบนุอับบาซ ได้กล่าวว่า
“ระหว่างที่เราอยู่กับท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺ ซึ่งท่านอยู่กับญิบรออีล และแล้วได้ยินเสียงฟ้าคำรามบนหัวของท่าน ญิบรีลก็ได้มองด้วยสายตาของเขาไปบนท้องฟ้า แล้วกล่าวว่า
“ประตูนี้ได้เปิดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเปิดเลย”
จากนั้นมะลาอิกะฮฺองค์หนึ่งได้ลงมาหาท่านนบี(ศ็อลฯ) แล้วกล่าวแก่ท่านนบีว่า
" أَبْشِرْ بِنُورَيْنِ قَدْ أُوتِيتهمَا لَمْ يُؤْتَهُمَا نَبِيّ قَبْلَك فَاتِحَة الْكِتَاب وَخَوَاتِيم سُورَة الْبَقَرَة لَمْ تَقْرَأ حَرْفًا مِنْهَا إِلَّا أُوتِيته "
(ขอให้ท่านมีความสุขด้วยแสงสว่างสองแสง ซึ่งแสงสว่างสองแสงนี้ไม่เคยถูกประทานแก่นบีคนใดเลยก่อนหน้าท่าน คือ ฟาติหะตุลกิตาบและตอนจบของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ ท่านไม่ได้อ่านตัวหนังสือตัวหนึ่งตัวใดที่ไร้ประโยชน์เลยนอกจากท่านจะได้รับผลบุญ)
หะดีษที่กล่าวมานี้ตามบันทึกของอันนะซาอีย์ และมุสลิมก็ได้บันทึกคล้ายๆนี้
อีกหะดีษหนึ่ง มุสลิมกล่าวว่า อิสหาก อิบนุ อิบรอฮีม อัลหันศอลีย์ หมายถึง อิบนุรอฮฺไวฮฺ ได้บอกแก่เราว่า ซุฟยาน อิบนุ อุยัยนะฮฺ ได้บอกแก่เราว่า อัลอะลาอฺ หมายถึง อิบนุ อับดุรเราะฮฺมาน อิบนุ ยะอฺกูบ อัลเคาะเราะกีย์ ได้รายงานว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ(เราะฎิฯ) ได้รายงาน ท่านนบี(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า
" مَنْ صَلَّى صَلَاة لَمْ يَقْرَأ فِيهَا بِأُمِّ الْقُرْآن فَهِيَ خِدَاج ثَلَاثًا غَيْر تَمَام"
(ผู้ใดละหมาดโดยไม่อ่านอุมมุลกุรอานในละหมาด การละหมาดของเขานั้นคิดาจ(เสมือนคลอดก่อนกำหนด)-จำนวน 3 ครั้ง-หมายถึงไม่สมบูรณ์)
มีคนกล่าวแก่อะบูฮุร็อยเราะฮฺว่า “แท้จริงแล้วเราละหมาดหลังอิมาม”
อุบูฮุร็อยเราะฮฺกล่าวแก่เขาว่า “เจ้าจงอ่านด้วยตัวเจ้าเอง เพราะฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) กล่าวว่า
" قَسَمْت الصَّلَاة بَيْنِي وَبَيْن عَبْدِي نِصْفَيْنِ وَلِعَبْدِي مَا سَأَلَ فَإِذَا قَالَ : ﴿الْحَمْد لِلَّهِ رَبّ الْعَالَمِينَ﴾ قَالَ اللَّه حَمِدَنِي عَبْدِي وَإِذَا قَالَ ﴿ الرَّحْمَن الرَّحِيم ﴾ قَالَ اللَّه أَثْنَى عَلَيَّ عَبْدِي فَإِذَا قَالَ : ﴿ مَالِك يَوْم الدِّين ﴾ قَالَ اللَّه مَجَّدَنِي عَبْدِي وَقَالَ مَرَّة فَوَّضَ إِلَيَّ عَبْدِي فَإِذَا قَالَ ﴿ إِيَّاكَ نَعْبُد وَإِيَّاكَ نَسْتَعِين ﴾ قَالَ هَذَا بَيْنِي وَبَيْن عَبْدِي وَلِعَبْدِي مَا سَأَلَ فَإِذَا قَالَ : ﴿ اِهْدِنَا الصِّرَاط الْمُسْتَقِيم صِرَاط الَّذِينَ أَنْعَمْت عَلَيْهِمْ غَيْر الْمَغْضُوب عَلَيْهِمْ وَلَا الضَّالِّينَ ﴾ قَالَ اللَّه هَذَا لِعَبْدِي وَلِعَبْدِي مَا سَأَلَ "
(“อัลลอฮฺ-อัซซะวะญัล-ได้ตรัสว่า ฉันแบ่งการละหมาดสองส่วน และสำหรับบ่าวของฉันเขาจะได้อะไรที่เขาขอ เมื่อเขากล่าว الْحَمْد لِلَّهِ رَبّ الْعَالَمِينَ (การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก) อัลลอฮฺตรัสว่า “บ่าวของฉันสรรเสริญฉัน” เมื่อเข่ากล่าวว่า ﴾ الرَّحْمَن الرَّحِيم ﴿ (ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ) อัลลอฮฺตรัสว่า “บ่าวฉันได้ยกย่องฉัน” และเมื่อเขากล่าวว่า ﴾ مَالِك يَوْم الدِّين ﴿ (ผู้ทรงอภิสิทธิ์แห่งวันตอบแทน) อัลลอฮฺก็ตรัสว่า “บ่าวของฉันได้เชิดชูฉัน” และบางครั้งพระองค์ตรัสว่า “บ่าวของฉันมอบหมายให้แก่ฉัน เมื่อเขากล่าวว่า ﴾ إِيَّاكَ نَعْبُد وَإِيَّاكَ نَسْتَعِين ﴿ (เฉพาะพระองค์เท่านั้น ที่พวกข้าพระองค์เคารพอิบาดะฮฺ และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวกข้าพระองค์ขอความช่วยเหลือ)” และพระงค์ตรัสต่อไปว่า “นี้ระหว่างฉันกับบ่าวของฉัน และสำหรับบ่วของฉันจะได้อะไรตามที่เขาขอ” และเมื่อเขากล่าวว่า ﴾ اِهْدِنَا الصِّرَاط الْمُسْتَقِيم صِرَاط الَّذِينَ أَنْعَمْت عَلَيْهِمْ غَيْر الْمَغْضُوب عَلَيْهِمْ وَلَا الضَّالِّينَ ﴿ (ขอพระองค์ทรงแนะนำพวกข้าพระองค์ ซึ่งทางอันเที่ยงตรง ทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงโปรดปรานแก่พวกเขา มิใช่ทางของพวกที่ถูกกริ้ว และมิใช่ทางของพวกที่หลงผิด) อัลลอฮฺก็ตรัสว่า “นี้สำหรับบ่าวของฉัน และสำหรับบ่าวของฉันจะได้สิ่งที่เขาขอ”) (มุสลิม :395)
อันนะซาอีย์ ก็ได้รายงานหะดีษนี้เช่นกัน โดยได้รับรายงานจาก อิสหาก อิบนุ รอฮฺไวฮฺ และทั้งสองได้รับรายงานจาก กุไตบะฮฺ ซึ่งได้รับรายงานจาก มาลิก และมาลิกจาก อัลอะลาอฺ ซึ่งได้รับจาก อะบูซาอิบ เมาลา ฮิชาม อิบนุ ซุฮฺเราะฮฺ ว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ได้รายงานคำตรัสของอัลลอฮฺที่ว่า
" فَنِصْفهَا لِي وَنِصْفهَا لِعَبْدِي وَلِعَبْدِي مَا سَأَلَ "
"ครึ่งหนึ่งเป็นของฉันและอีกครึ่งหนึ่งเป็นของบ่าวของฉัน และบ่าวของฉันจะได้ในสิ่งที่เขาขอ" (อันนะซาอีย์ :2/135)
ในเรื่องนี้เช่นกัน อิบนุอิสหาก ได้รายงานว่าได้รับรายงานจาก อัลอะลาอฺ
มุสลิมก็ได้รายงานหะดีษนี้จากรายงานของ อิบนุ ญุไรจ ซึ่งได้รับรายงานจาก อัลอะอฺลาอฺ และอัลอะอฺลาอฺได้รับรายงานจาก อัซซาอิบ และเช่นกัน มุสลิม ได้รายงานหะดีษนี้ จากรายงานของ อะบู อุไวซ์ จากการรายงานของ อัลอะอลาอฺ และอัลอะลาอฺ ได้รับรายงานของบิดาของเขาและอะบู อัซซาอิบ ซึ่งทั้งสองคนนี้ได้รับรายงานจาก อะบูฮุร็อยเราะฮฺ (มุสลิม :395)
หะดีษนี้ อัตติรมีซีย์ กล่าวว่าเป็นหะดีษที่ดี(หะซัน) แลมีคนถาม อะบาซุรอะฮฺ เกี่ยวกับหะดีษนี้ ท่านบอกว่า หะดีษทั้งสองนี้ ถูกต้องและน่าเชื่อถือ(เศาะหีหฺ) ถ้าคนๆนั้นได้กล่าวมาจากการรายงานขของ อัลอะลาอฮฺ ที่ได้รับมาจาก อะบูอัซซาอิบ และรายงาจากอัลอะลาอฺที่มาจากบิดาของเขา (อัตติรมีซีย์ :2953)
อับดุลลอฮฺ อิบนุ อิมามอะหฺมัด ได้รายงานหะดีษนี้มาเช่นกัน โดยรายงานจากที่ได้รับรายงานจากอัลอะลาอฺซึ่งรายงานต่อจากพ่อของเขาที่ได้รับจาก อะบูฮุร็อยเราะฮฺ และอะบูฮุร็อยเราะฮฺได้รับจาก อุไบย์ อิบนุ กะอับ เป็นหะดีษที่รายงานมายาว (อะหฺมัด :1/230)
อิบนุญะรีรฺ ได้กล่าวว่า ศอลิหฺ อิบนุ มิซมารฺ ได้กล่าวแก่เราว่า อัลมัรฺวะซีย์ ได้กล่าวแก่เราว่า ไซด์ อิบนุ อัลหุบาบ ได้กล่าวแก่เราว่า อันบะซะฮฺ อิบนุ ซะอีด ได้กล่าวแก่เราว่า มุฏ็อรฺริฟ อิบนุ เฎาะรีฟ ได้รายงานว่า จากซะอีด อิบนุ อิสหาก จาก กะอับ อิบนุ อุจเราะฮฺ ได้รายงานว่า ญาบิรฺ อิบนุ อับดุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺﷺ ได้กล่าวว่า
(อัลลอฮฺ-ตะอาลา-ได้ตรัสว่า “ฉันได้แบ่งการละหมาดระหว่างฉันกับบ่าวของฉันออกเป็นสองส่วน เขาได้รับอะไรที่เขาขอ” เมื่อบ่าวกล่าวว่า ﴾ الْحَمْد لِلَّهِ رَبّ الْعَالَمِينَ ﴿ (การสรรเสริญทั้งหลายนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก) อัลลอฮฺตรัสว่า “บ่าวของฉันได้สรรเสริญฉัน” เมื่อบ่าวกล่าวว่า ﴾ الرَّحْمَن الرَّحِيم ﴿ (ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ) อัลลอฮฺตรัสว่า “บ่าวของฉันได้ยกย่องฉัน” แล้วพระองค์ก็ได้กล่าวว่า “นี้สำหรับฉันและที่เหลือจากนั้นเป็นของบ่าวของฉัน” (อัฏเฏาะบะรีย์ :1/201, อะบูหาติม :1/17)
หะดีษในรูปแบบนี้เป็นหะดีษโดดเดี่ยว(เฆาะรีบ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น