ท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า ญิบรีลได้มาหาพวกเจ้าเพื่อสอนศาสนาของพวกเจ้าแก่พวกเจ้า และท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้ยืนยันทั้งหมดนี้เป็นศาสนา และท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้ชี้แจงแก่ตัวแทนอัลดุลก็อยซ์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา และอัลลอฮฺได้ตรัสว่า
وَمَن يَبْتَغِ غَيْرَ الْإِسْلَامِ دِينًا فَلَن يُقْبَلَ مِنْهُ
ความว่า :
และผู้ใดแสวงหาศาสนาหนึ่งศาสนาใดอื่นจากอิสลามแล้ว ศาสนานั้นก็จะไม่ถูกรับจากเขาเป็นอันขาด (อาลาอิมรอน 3:85)
หะดีษที่ 50(48)
حَدَّثَنَا مُسَدَّدٌ ، قَالَ : حَدَّثَنَا إِسْمَاعِيلُ بْنُ إِبْرَاهِيمَ ، أَخْبَرَنَا أَبُو حَيَّانَ التَّيْمِيُّ ، عَنْ أَبِي زُرْعَةَ ، عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ ، قَالَ :
كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بَارِزًا يَوْمًا لِلنَّاسِ ، فَأَتَاهُ جِبْرِيلُ ، فَقَالَ : مَا الْإِيمَانُ ؟ قَالَ : ” الْإِيمَانُ أَنْ تُؤْمِنَ بِاللَّهِ وَمَلَائِكَتِهِ وَبِلِقَائِهِ وَرُسُلِهِ وَتُؤْمِنَ بِالْبَعْثِ ، قَالَ : مَا الْإِسْلَامُ ؟ قَالَ : الْإِسْلَامُ أَنْ تَعْبُدَ اللَّهَ وَلَا تُشْرِكَ بِهِ شَيْئًا ، وَتُقِيمَ الصَّلَاةَ ، وَتُؤَدِّيَ الزَّكَاةَ الْمَفْرُوضَةَ ، وَتَصُومَ رَمَضَانَ ، قَالَ : مَا الْإِحْسَانُ ؟ قَالَ : أَنْ تَعْبُدَ اللَّهَ كَأَنَّكَ تَرَاهُ فَإِنْ لَمْ تَكُنْ تَرَاهُ فَإِنَّهُ يَرَاكَ ، قَالَ : مَتَى السَّاعَةُ ؟ قَالَ : مَا الْمَسْئُولُ عَنْهَا بِأَعْلَمَ مِنَ السَّائِلِ ، وَسَأُخْبِرُكَ عَنْ أَشْرَاطِهَا إِذَا وَلَدَتِ الْأَمَةُ رَبَّهَا ، وَإِذَا تَطَاوَلَ رُعَاةُ الْإِبِلِ الْبُهْمُ فِي الْبُنْيَانِ فِي خَمْسٍ لَا يَعْلَمُهُنَّ إِلَّا اللَّهُ ، ثُمَّ تَلَا النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : إِنَّ اللَّهَ عِنْدَهُ عِلْمُ السَّاعَةِ (سورة لقمان آية 34) ، ثُمَّ أَدْبَرَ ، فَقَالَ : رُدُّوهُ ، فَلَمْ يَرَوْا شَيْئًا ، فَقَالَ : هَذَا جِبْرِيلُ ، جَاءَ يُعَلِّمُ النَّاسَ دِينَهُمْ ” ،
قَالَ أَبُو عَبْد اللَّهِ : جَعَلَ ذَلِك كُلَّهُ مِنَ الْإِيمَانِ .
ความว่า :
มุซัดดัด ได้บอกแก่เราว่า อิสมาอีล อิบนุอิบรอฮีม ได้บอกแก่เราว่า อะบูหัยยาน อัตตัยมีย์ ได้บอกแก่เราว่า อะบูซุรอะฮฺ ได้รายงานว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ ได้กล่าวว่า :
“วันหนึ่งท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้นั่งท่ามกลางเพื่อนมนุษย์ ญิบรีลก็ได้มาหาท่าน แล้วกล่าวว่า “อีมานคืออะไร” ท่านตอบว่า “อีมาน คือ การศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อบรรดามะลาอีกะฮฺ ต่อการได้พบพระองค์ ต่อศาสนาทูตของพระองค์และศรัทธาการฟื้นคืนชีพ” เขากล่าวว่า “อะไร คือ อิสลาม” ท่านตอบว่า “อิสลาม คือ เจ้าภักดี(อิบาดะฮฺ)ต่ออัลลอฮฺ ไม่ตั้งภาคีใดๆกับพระองค์ ดำรงละหมาด จ่ายซะกาตที่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ และถือศีลอดในเดือนรอมฎอน” เขากล่าวอีกว่า “อะไร คือ อิหฺซาน” ท่านตอบว่า “เจ้าภักดีต่ออัลลอฮฺเหมือนกับว่าเจ้าเห็นพระองค์ และถ้าเจ้าไม่เห็นพระองค์พระองค์ก็จะเห็นเจ้า” เขาถามว่า “เมื่อไรจะถึงเวลาวันสิ้นโลก” ท่านตอบว่า “คนที่ถามในเรื่องนี้รู้ดีกว่าคนที่ถูกถาม และฉันจะบอกเจ้าเกี่ยวกับเงื่อนไขของการเกิดวันสิ้นโลก ถ้าข้าทาสได้คลอดเจ้านายของเขา คนเลี้ยงอูฐดำจะแข่งขันสร้างอาคาร ในอีก 5 อย่างไม่มีผู้ใดรู้นอกจากอัลลออฺ” แล้วท่านนบี(ศ็อลฯ)ก็ได้อ่านอายะฮฺอัลกุรอาน
จากนั้นเขาก็หันหลังไป ท่านนบีก็บอกให้เศาะหาบะฮฺว่า “เรียกเขามา” บรรดาเศาะหาบะฮฺมองไม่เห็นอะไรเลย(เขาหายไปแล้ว)” ท่านนบีกล่าวว่า “นี้คือญิบรีล เขามาเพื่อสอนศาสนาแก่ประชาชนเรื่องศาสนาของพวกเขา”
อะบูอับดุลลอฮฺ กล่าวว่า “ท่านนบีถือทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา(อีมาน)”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น