วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 18(17) :

 


حَدَّثَنَا أَبُو الْيَمَانِ ، قَالَ : أَخْبَرَنَا شُعَيْبٌ ، عَنِ الزُّهْرِيِّ ، قَالَ : أَخْبَرَنِي أَبُو إِدْرِيسَ عَائِذُ اللَّهِ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ ، أَنَّ عُبَادَةَ بْنَ الصَّامِتِ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ ، وَكَانَ شَهِدَ بَدْرًا وَهُوَ أَحَدُ النُّقَبَاءِ لَيْلَةَ الْعَقَبَةِ ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، قَالَ وَحَوْلَهُ عِصَابَةٌ مِنْ أَصْحَابِهِ :

 بَايِعُونِي عَلَى أَنْ لَا تُشْرِكُوا بِاللَّهِ شَيْئًا ، وَلَا تَسْرِقُوا ، وَلَا تَزْنُوا ، وَلَا تَقْتُلُوا أَوْلَادَكُمْ ، وَلَا تَأْتُوا بِبُهْتَانٍ تَفْتَرُونَهُ بَيْنَ أَيْدِيكُمْ وَأَرْجُلِكُمْ ، وَلَا تَعْصُوا فِي مَعْرُوفٍ ، فَمَنْ وَفَى مِنْكُمْ فَأَجْرُهُ عَلَى اللَّهِ ، وَمَنْ أَصَابَ مِنْ ذَلِكَ شَيْئًا فَعُوقِبَ فِي الدُّنْيَا فَهُوَ كَفَّارَةٌ لَهُ ، وَمَنْ أَصَابَ مِنْ ذَلِكَ شَيْئًا ثُمَّ سَتَرَهُ اللَّهُ فَهُوَ إِلَى اللَّهِ إِنْ شَاءَ عَفَا عَنْهُ وَإِنْ شَاءَ عَاقَبَهُ ” ،

فَبَايَعْنَاهُ عَلَى ذَلِك .

ความว่า : 

อะบู อัลยะมาน ได้บอกแก่เราว่า ชุไอบฺ ได้เล่าแก่เราว่า อัซซุฮฺรรีย์ ได้รายงานว่า อะบูอิดรีส อาอิซุลลอฮฺ อิบนุอับดุลลอฮฺ ได้เล่าว่า อุบาดะฮฺ อิบนุศศอมิต(รอฎิฯ) ซึ่งได้เข้าร่วมในสงครามบะดัรฺและเป็นหนึ่งในผู้นำในค่ำคืนอะเกาะบะฮฺ ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้กล่าวระหว่างอยู่ในกลุ่มสหายของท่านว่า

“พวกเจ้าจงให้คำมั่นสัญญาแก่ฉันว่าจะไม่ตั้งภาคีใดๆกับอัลลอฮฺ ไม่ลักขโมย ไม่ผิดประเวณี ไม่ฆ่าลูกหลาน ไม่ใส่ร้ายแก่กันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่ฝ่าฝืนในเรื่องการทำการดี บุคคลใดในพวกเจ้าได้กระทำแล้วการตอบแทนสิ่งที่ดีเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ และผู้ใดได้กระทำผิดข้อหนึ่งข้อใด อัลลอฮฺจะลงโทษบนโลกนี้เป็นการตอบแทนแก่เขา(บนโลกนี้) และผู้ใดได้กระผิดข้อหนึ่งข้อใดแล้วอัลลอฮฺปกปิดไว้ เป็นเรื่องของอัลลอฮฺ หากพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะอภัย หากพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะลงโทษ”

เราก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับท่านตามที่ได้กล่าวมานั้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น