วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565

เทคนิคการสอนจากอัลกุรอาน(1) พูดจากนุ่มนวลและยืนหยุ่น





พูดอย่างยืดหยุ่นและนุ่มนวล
"เจ้าทั้งสอง(มูซาและฮารูน) จงพูดกับเขา(ฟาโรห์) ด้วยคำพูดที่นุ่มนวล"


        ภาษาที่ครูใช้กับนักเรียนควรเป็อนอย่างไร นอกจากอยู่ที่ภาษาที่ต้องชัดแล้วสิ่งหนึ่งที่ครูทุกคนไม่ควรละเลย คือ ลักษณะการพูดคุย

        อัลลอฮฺได้ตรัสว่า แต่นบีมูซาและนบีฮารูน ว่า

﴿ فَقُولا لَهُ قَوْلاً لَّيِّناً ...﴾

        ความว่า : "เจ้าทั้งสอง(มูซาและฮารูน) จงพูดกับเขา(ฟาโรห์) ด้วยคำพูดที่นุ่มนวล" (ฏอฮา : 20/44)

        การกระทำของบรรดาเราะซูล ก็เป็นแบบอย่างแก่พวกเรา เมื่ออัลลอฮฺสั่งเราะซูลให้กระทำอย่างไร ถ้าไม่มีสิ่งยกเว้นอะไรก็เหมือนกับว่าสั่งพวกเราทุกคนให้กระทำเช่นนั้นด้วยเช่นกัน

        ขอเล่าเรื่องราวของนบีมูซอและนบีฮารูนย่อ ๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจที่มาที่ไปของคำสั่งนี้

        นบีมูซาหรือที่บางคนเรียกว่าโมเสส เกิดในตระกูลบะนีอิสรออีล ซึ่งในปีที่มูซาเกิดนั้นโหรของจักรพรรดิฟีรเอาน์หรือฟาโรห์ทำนายว่าเด็กเกิดใหม่ในช่วงนั้นจะนำหายนะมาแก่ราชวงศ์ กษัตริย์ฟาโรห์ก็สั่งฆ่าเด็กชายที่เกิดใหม่ที่มาจากบะนีอิสรออีลทุกคน แต่มูซาสามารถเล็ดลอดสายตรวจของฟาโรห์ได้ และเกิดมาท่ามกลางความหวาดกลัวของญาติพี่น้อง จึงปล่อยให้ล่องลอยไปตามสายน้ำ เมื่อราชินีเห็นเด็กล่องลอยมากับสายน้ำเกิดชอบและรักที่จะเลี้ยง จึงนำเด็กมาเลี้ยงจนเติบใหญ่

        ในช่วงที่มูซายังเป็นทารกอยู่ กษัตริย์ฟาโรห์ต้องการที่จะทดสอบว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กประเสริฐจริงหรือไม่ โดยให้มูซาเลือกระหว่างผลองุ่นกับถ่านไฟแดง ๆ ด้วยความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ มูซาก็เลือกถ่านไฟที่กำลังลุกไหม้หยิบใส่ปากตัวเอง เป็นเหตุให้การพูดจาของมูซาไม่คล่องแคล่วเหมือนคนปกติ

        นอกจากนี้ ด้วยเหตุที่มูซาต้องหนีฟาโรห์ไปอยู่บ้านนอกท่ามกลางทะเลทรายเป็นสิบกว่าปี สภาพสังคมบ้านนอกทำให้ภาษาของมูซาไม่นุ่มนวลเหมือนคนในเมือง ครั้นเมื่ออัลลอฮฺแต่งตั้งมูซาให้เป็นฑูตไปพูดจากับฟาโรห์ให้เขาหันกลับไปศรัทธาพระเจ้า สิ่งแรกที่มูซากระทำเพื่อให้เขาสามารถพูดจาได้คล่องและทำงานพูดคุยเชิญชวนเพื่อให้ฟาโรห์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คือ ท่านขอพร(ดุอา)จากอัลลอฮฺ ว่า

﴿ قَالَ رَبِّ اشْرَحْ لِي صَدْرِي (25) وَيَسِّرْ لِي أَمْرِي (26) وَاحْلُلْ عُقْدَةً مِّن لِّسَانِي (27) يَفْقَهُوا قَوْلِي (28) ﴾

(25. เขากล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดเปิดอกของข้าพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด”
26. “และทรงโปรดทำให้การงานของข้าพระองค์ ง่ายดายแก่ข้าพระองค์ด้วย
27. “และทรงโปรดแก้ปม จากลิ้นของข้าพระองค์ด้วย
28. “เพื่อให้พวกเขาเข้าใจคำพูดของข้าพระองค์” ) (ฏอฮา : 20/25-28)

        และพี่ชายเขาเกิดในเมือง โตในเมือง การใช้ภาษาน่าจะดีกว่า ท่านจึงขอจากอัลลอฮฺให้แต่งตั้งพี่ชาย คือ นบีฮารูนเป็นคู่หูไปเชิญชวนกับเขา

﴿ وَاجْعَل لِّي وَزِيراً مِّنْ أَهْلِي (29) هَارُونَ أَخِي (30) اشْدُدْ بِهِ أَزْرِي (31) وَأَشْرِكْهُ فِي أَمْرِي (32) ﴾

(29. “และทรงโปรดให้คนในครอบครัวของข้าพระองค์ เป็นผู้ช่วยแก่ข้าพระองค์ด้วย”
30. “ฮารูนพี่ชายของข้าพระองค์”
31. “ได้โปรดให้เขาเพิ่มความเข้มแข็งแก่ข้าพระองค์ด้วย
32. “และให้เขามีส่วนร่วมในกิจการของข้าพระองค์ด้วย”) (ฏอฮา : 20/29-32)

        จากเรื่องราวของนบีมูซานี้ นับเป็นบทเรียนสำคัญบทหนึ่งสำหรับครูทุกคน พอสรุปได้ว่า คนที่จะทำหน้าที่เป็นครูจะต้องคำนึงในสิ่งต่อไปนี้
  • ก่อนสอนครูต้องเตรียมก่อนว่า สอนใคร เขาพูดอะไร และระดับอายุเขาเท่าไร เด็ก วัยรุ่นหรือว่าเป็นผู้ใหญ่ (ต้องเรียนรู้จิตวิทยาพัฒนาการ)
  • ครูต้องใช้ภาษาที่ผู้เรียนเข้าใจง่าย ต้องพูดคล่องแคล่ว ถ้าพบว่าตัวเองยังพูดตะกุกตะกักอยู่ จำเป็นที่จะต้องสอน ต้องพูดคุยกับผู้เรียน ครูจะต้องฝึกพูดบ่อยๆ ถ้ายังไม่ได้ผลและยังจำเป็นที่จะต้องสอน ครูควรหาเพื่อนที่ไปช่วยสอน อย่างกรณีนบีมูซาที่แต่งตั้งนบีฮารูน
  • ก่อนเริ่มต้นสอนควรจะขอพร(ดุอา) เหมือนอย่างนบีมูซา ตามที่กล่าวข้างบน
  • ระหว่างที่พูดคุยกับผู้เรียน ครูต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ภาษาที่ยืดหยุ่นและนุ่มนวล โดยเฉพาะไม่ควรใช้อารมณ์ในการพูดคุย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น