نَحْنُ نَقُصُّ عَلَيْكَ أَحْسَنَ الْقَصَصِ بِمَا أَوْحَيْنَا إِلَيْكَ هَٰذَا الْقُرْآنَ وَإِن كُنتَ مِن قَبْلِهِ لَمِنَ الْغَافِلِينَ (3)
ความว่า :3. เราจะเล่าเรื่องราวที่ดียิ่งแก่เจ้า ตามที่เราได้วะฮีอัลกุรอานนี้แก่เจ้า และหากว่าก่อนหน้านี้เจ้าอยู่ในหมู่ผู้ไม่รู้เรื่องราว
เมื่อเราอ่านอัลกุรอานตั้งแต่บทหรือซูเราะฮฺแรกๆ เราจะพบได้อัลลอฮฺนำเสนอเรื่องราวของบุคคลยุคต่าง ๆ มากมาย อย่างซูเราะฮฺที่ 2 ที่มีชื่อ อัลบะเกาะเราะฮฺ ที่แปลว่า "วัวตัวเมีย" ก็เป็นเรื่องราวของนบีมูซา(หรือโมเสส) การเหตุการฆ่าวัวตัวเมียเพื่อสืบสวนคดีในกลุ่มของคนยิว และในแต่ละเรื่องราวที่อัลลอฮฺได้เล่ามาในอัลกุรอานนั้น เป็นบทบัญญัติและเป็นแบบอย่างหรือแม่แบบ(Model)แก่คนยุคหลัง
อัลเบิรต์ แบนดูรา (1925 - 2021) เสนอว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้คือการสังเกตแม่แบบ(Model) แล้วเลียนแบบแม่แบบนั้นเป็นพฤติกรรมใหม่สำหรับเขา ถึงกระนั้นก็ตามไม่ได้หมายความว่ามนุษย์จะแสดงทุกอย่างที่แม่แบบแสดงออกมา แต่จะขึ้นกับผลกรรมที่แม่แบบได้รับจากการกระทำนั้นและกระบวนการทางปัญญาของผู้เรียน ดังนั้นองค์ประกอบของการเรียนรู้แบนดุราเสนอว่ามี 3 ประการ คือ
- แม่แบบในรูปพฤติกรรมต่างๆ(Behavioral Model)
- ผลกรรมจากพฤติกรรมของแม่แบบที่แม่แบบได้รับ (Consequences of the Modeled Behavior)
- กระบวนการทางปัญญาของผู้เรียน(Learner's Cognitive Process)
แม่แบบหรือต้นแบบ(Model) คือ ผู้ซึ่งมีลักษณะพฤติกรรมควรค่าแก่การเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่น บางครั้งจะในรูปของสัตว์อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นกับลูกของนบีอาดัม และหน้าที่พื้นฐานของแม่แบบคือถ่ายทอดสารสนเทศหรือความรู้แก่ผู้สังเกต อัลลอฮฺได้ส่งอีกามาเป็นแม่แบบถ่ายทอดวิธีการจัดการกับศพให้แก่กอบิลลูกนบีอาดัมที่สังเกตอยู่
แม่แบบสามารถทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งต่อไปนี้
- แม่แบบเป็นตัวชีแนะพฤติกรรมแก่ผู้สังเกต
- แม่แบบทำหน้าที่ขัดขวางหรือส่งเสริมให้ผู้สังเกตปฎิบัติในพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่ง ขึ้นอยู่กับผลกรรมหรือผลที่แม่แบบที่เคยแสดงพฤติกรรมนั้นแล้วผลที่เขาได้เป็นอย่างไร
- แม่แบบเป็นสื่อถ่ายทอดวัฒนธรรม แม่แบบสามารถเป็นสื่อสำคัญในกระบวนการสังคมไร้พรมแดน ทั้งทางภาษา ขนบธรรมเนียม ประเพณี การศึกษา และพฤติกรรมทางสังคมอื่นๆ
ประเภทของแม่แบบ
แม่แบบมีอยู่ 3 ประเภท คือ
1. แม่แบบมีชีวิต(Live Model) ได้แก่บุคคลในครอบครัว ครู เพื่อนหรือผู้คนทั่วไปที่ผู้สังเกตพบปะและเห็นเขาเป็นประจำ และแม่แบบในลักษณะนี้อัลลอฮฺได้บัญญัติไว้ว่า
لَّقَدۡ كَانَ لَكُمۡ فِي رَسُولِ ٱللَّهِ أُسۡوَةٌ حَسَنَةٞ
لِّمَن كَانَ يَرۡجُواْ ٱللَّهَ وَٱلۡيَوۡمَ ٱلۡأٓخِرَ وَذَكَرَ ٱللَّهَ كَثِيرٗا ٢١
لِّمَن كَانَ يَرۡجُواْ ٱللَّهَ وَٱلۡيَوۡمَ ٱلۡأٓخِرَ وَذَكَرَ ٱللَّهَ كَثِيرٗا ٢١
ความว่า : โดยแน่นอน ในเราะซูล(ศาสนทูต)ของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮฺและวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างมาก (อัลอะหฺซาบ 33:21)
ท่านนบีมุฮำมัด(ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า
وصَلُّوا كما رَأَيْتُمُونِي أُصَلِّي
ความว่า : พวกเจ้าจงละหมาดอย่างที่พวกเจ้าเห็นฉันละหมาด (อัลบุคอรีย์ 6008)
قُلۡ إِن كُنتُمۡ تُحِبُّونَ ٱللَّهَ فَٱتَّبِعُونِي يُحۡبِبۡكُمُ ٱللَّهُ
وَيَغۡفِرۡ لَكُمۡ ذُنُوبَكُمۡۚ وَٱللَّهُ غَفُورٞ رَّحِيمٞ ٣١
ความว่า : 31. จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮฺ ก็จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮฺก็จะทรงรักพวกท่าน และจะทรงอภัยให้แก่พวกท่านซึ่งโทษทั้งหลายของพวกท่าน และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ (อาลาอิมรอน 3/31)
2. แม่แบบสัญลักษณ์(Symbolic Model) แม่แบบทีเป็นสื่อต่างๆ ทั้งทีเป็นรูปภาพ ภาพยนตร์ วิดิโอ โทรทัศน์ หนังสือ นวนิยาย เรื่องเล่าต่างๆ เป็นต้น
ในอัลกุรอานอัลลอฮฺได้ตรัสถึงเรื่องราวต่างๆในอดีตเพื่อเป็นอุทาหรณ์และบทเรียนแก่ชนรุ่นหลัง และพระองค์ได้ตรัสในตอนท้ายของยูซุฟนี้ว่า
لَقَدۡ كَانَ فِي قَصَصِهِمۡ عِبۡرَةٞ لِّأُوْلِي ٱلۡأَلۡبَٰبِۗ مَا كَانَ حَدِيثٗا يُفۡتَرَىٰ
وَلَٰكِن تَصۡدِيقَ ٱلَّذِي بَيۡنَ يَدَيۡهِ وَتَفۡصِيلَ كُلِّ شَيۡءٖ وَهُدٗى وَرَحۡمَةٗ لِّقَوۡمٖ يُؤۡمِنُونَ ١١١
ความว่า : โดยแน่นอนยิ่ง ในเรื่องราวของพวกเขา เป็นบทเรียนสำหรับบรรดาผู้มีสติปัญญา มิใช่เป็นเรื่องราวที่ถูกปั้นแต่งขึ้น แต่ว่าเป็นการยืนยันความจริงที่อยู่ต่อหน้าเขา และเป็นการแจกแจงทุกสิ่งทุกอย่าง และเป็นการชี้ทางที่ถูกต้อง และเป็นการเมตตาแก่หมู่ชนผู้ศรัทธา (ยูซุฟ 12/111)
3. แม่แบบในรูแบบคำสอน(Verbal Description or Instruction) เป็นแม่แบบที่เป็นคำพูดหรือการบอกทางวาจา หรือเป็นคำสอนด้วยภาษาเขียน เช่น ชุดคู่มือการทำงาน คำอธิบายในการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ
ในอายะฮฺที่ 3 ของซุเราะฮฺนี้(ตามที่ได้ยกมาข้างบน) อัลลอฮฺทรงตรัสว่าพระองค์จะเล่าเรื่องราวของนบียูซุฟที่พวกคนอาหรับอาจเคยได้ยินมากก่อน อาจได้ยินมาแบบผิด ๆ ถูก ๆ เพราะคนอาหรับในตอนนั้นมีน้อยคนมาก(บางรายงานว่ามีแค่ 17 คนเท่านั้น)ที่อาจออกเขีนได้ และเรื่องราวต่าง ๆ ที่ยกมาเป็นเรื่องจริงและเป็นบทเรียนแบบอย่างแก่คนรุ่นหลัง
ดังนั้น ในการเรียนการสอนการเล่านิทานของครู ไม่ใช่เป็นเรื่องดึงดูดความสนใจแก่เด็ก ให้เด็กสนใจครู สนใจสิ่งครูเล่า และสนใจบทเรียนที่ครูจะสอน ในเวลาเดียวกันนิทานหรือเรื่องราวที่ครูเล่าให้เด็กฟังนั้นสามารถเป็นแบบอย่างหรือ Model แก่เด็ก สอนเด็กในเรื่องนั้น ๆ ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น