วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2565

การศึกษาและจิตวิทยาในซูเราะฮฺยูซุฟ (3) ชัดเจนและใช้ภาษาที่เหมาะสม

 



بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَٰنِ الرَّحِيمِ

 الر ۚ تِلْكَ آيَاتُ الْكِتَابِ الْمُبِينِ (1)

إِنَّا أَنْزَلْنَاهُ قُرْآنًا عَرَبِيًّا لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ (2)

(ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปรานี

[1] อะลีฟ ลาม รออฺ เหล่านี้คือโองการทั้งหลายแห่งคัมภีร์ที่ชัดแจ้ง

[2] แท้จริงพวกเราได้ให้อัลกุรอานแก่เขาเป็นภาษาอาหรับ หวังว่าพวกเจ้าจะใช้ปัญญาคิด)


        ชุดการศึกษาและจิตวิทยาในซูเราะฮฺยูซุฟนี้ บทที่แล้วเราได้คุยถึงการสร้างแรงจูงใจกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจ และหันเหสติปัญญาของเขาสุ่เรื่องที่เราจะสอนแก่เขา ซึ่งในซูเราะฮฺนี้อัลลอฮฺใช้การใช้คำที่แปลกประหลาดที่พวกเขาไม่เคยได้ยิน คือ الر (อะลีฟ ลาม รออฺ) หลังจากนั้นอัลลอฮฺก็จะแจ้งถึงสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในคัมภีร์นี้ ชัดเจน ชัดแจ้ง ไม่คลุ่มเครือ

        تِلْكَ آيَاتُ الْكِتَابِ الْمُبِينِ (เหล่านี้คือโองการทั้งหลายแห่งคัมภีร์ที่ชัดแจ้ง)

        เนื้อหาที่ครูจะสอนนักเรียนจะต้องชัดเจนไม่คลุมเครือ ในอายะฮฺนี้อุลามาอฺบางท่านบอกว่า ในอัลกุรอานมีบ่งบอกว่าอย่างไหนเป็นสิ่งที่ทำได้(หะลาล)และอย่างไหนที่ทำไม่ได้(หะรอม) และชี้แนะชัดเจนอย่างไหนที่เป็นทางน้ำที่ถูกต้องอย่างไหนเป็นการนำสู่ความมืดมนและหลงทาง 

        ฉะนั้นก่อนที่ครูจะสอนเด็ก ครูต้องมั่นใจก่อนเนื้อหานั้นไม่คลุมเครือ เมื่อเด็กได้เรียนรุ้แล้วเด็กตัดสินได้ว่าอันไหนควรทำอันไหนไม่ควรทำ และสื่อที่ครูจะใช้ต้องชัดเจนด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือสื่ออื่นๆ

        จากนั้นอัลลอฮฺก็ได้ตรัสว่า

        إِنَّا أَنْزَلْنَاهُ قُرْآنًا عَرَبِيًّا لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ   (แท้จริงพวกเราได้ให้อัลกุรอานแก่เขาเป็นภาษาอาหรับ หวังว่าพวกเจ้าจะใช้ปัญญาคิด)

        อย่างที่เล่ามาในตอนที่แล้ว เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับชีวประวัติของบรรดานบีในยุคก่อนหน้านบีมุฮำมัด(ศ็อลฯ) จะถูกเล่าจากบันทึกที่เป็นภาษาอื่น เช่น ภาษาฮิบรู ซึ่งเป็นภาษาอื่นที่คนอาหรับไม่ค่อยถนัด ครั้งนี้เป็นการเล่าในภาษาอาหรับ เป็นภาษาของพวกเขาเอง นอกจากนั้นภาษาอาหรับยังเป็นภาษาที่ถุกต้อง ชัดเจนและกว้างขวาง(อิบนุกะษีรฺ)  

        นอกจากเรื่องราวที่เล่ามาในสมัยนั้นให้เป็นภาษาอาหรับ สิ่งอื่น ๆ เช่น บทบัญญัติ ตัวบทกฎหมายด้วยภาษาอาหรับเป็นภาษากฎหมายที่ดีที่สุด และเป็นภาษาที่พวกเขาสามารถเข้าใจได้ง่าย ว่ากล่าวอะไร พวกเขาสามารถรับรู้ได้อย่างกระจ่างแจ้ง เพราะเป็นภาษาที่พวกเขาพูดคุยกัน ทำให้คนที่มีปัญญาสามารถคลคิดได้กว้างไกลและสร้างอีมานได้

        สำหรับครูแล้ว ภาษาที่ใช้พูดกับเด็กนักเรียนสมควรเป็นภาษาที่เขาสามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจง่าย ซึ่งใน 3-4 จังหวัดของมุสลิมภาคใต้ประเทศไทยแล้ว มีหลากหลายภาษาที่ครูควรเรียนรู้และพูดคุยกับเด็กได้ สามารถทำให้เด็กเข้าใจตามที่คาดหวังได้ มี 4 ภาษาหลัก ๆ ดังนี้

  • ภาษามลายู เป็นภาษาแม่ของเด็กส่วนใหญ่ และอยู่กับพ่อแม่และอยู่ที่บ้าน แต่ปัญหาเป็นแค่ภาษาพูดไม่ใช่ภาษากลางหรือภาษาเขียน ซึ่งถ้าเป็นภาษากลางที่สามารถขีดเขียนได้ต้องเป็นภาษามาเลย์หรือคล้าย ๆ กับภาษามาเลย์ บางครั้งครูจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ภาษานี้บ้าง สำหรับสื่อสารกับเด็กมลายุในสิ่งที่อธิบายได้ยาก
  • ภาษาไทย เป็นภาษาของชาติและเป็นภาษาวิชาการ จะขีดเขียน สื่อสารอะไร ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ภาษาไทย เมื่อเด็กบางคนมีพื้นฐานเป็นภาษามลายูและเพื่อเป็นการสื่อสารในการเรียนการสอนให้เขาสามารถศึกษาต่อในชั้นสูงได้ ครูต้องพยายามสอนให้เด็กพูดคุยและขีดเขียนด้วยภาษาได้อย่างคล่องแคล้ว
  • ภาษาอาหรับ เป็นภาษาที่เด็กสัมผัสมาแต่เด็ก เพราะเป็นภาษาศาสนา เด็กบางคนสามารถอ่านภาษาอาหรับที่เป็นอัลกุรได้ตั้งแต่ยังเล็กแม้จะไม่เข้าใจความหมาย ฉะนั้นครูบางคนควรจะเรียนรู้ภาษาอาหรับนี้บ้าง โดยเฉพาะครูสอนอิสลามศึกษา เพราะในอิสลามศึกษาคำศัพท์ต่าง ๆ มีหลายคำที่ยังใช้ภาษาอาหรับเพื่อทำความเข้าใจ เช่น คำว่า อีมาน เป็นต้น
  • ภาษาอังกฤษ ทุกวันนี้ถือว่าเป็นภาษาสากล โดยเฉพาะยุคโลกไร้พรมแดนแบบนี้ เราจำเป็นต้องใช้ภาษาที่เป็นสากล ทุกแห่งและทุกที่สามารถใช้เป็นภาษากลางสื่อสารได้ นี้เป็นภาษาหนึ่งที่ครูต้องมีไม่มากก็น้อยและในเวลาเดียวกันครูต้องฝึกฝนให้นักเรียนของครูรู้เรื่องในภาษาสากลนี้ด้วย
        นอกจากภาษาต่างๆ 3-4 ภาษาที่ครูต้องมีแล้ว ภาษาแต่ละภาษาที่ครูใช้สื่อสารกับเด็กครูต้องใช้อย่างถูกต้อง ชัดเจนและสามารถสือสารกับเด็กได้ตรงตามที่ต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น