วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ริยาฎุศศอลิฮีน : บทที่ 2 (สำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัวไปหาอัลลอฮฺ)

 

بَابُ التَّوْبَةِ

เรื่อง เตาบะฮฺ (สำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัวไปหาอัลลอฮฺ)




       ผู้รอบรู้ในศาสนาอิสลาม(อุลามาอฺ)ได้กล่าวว่า เตาบะฮฺหรือเตาบัตเป็นสิ่งที่ต้องกระทำในทุกการงานที่ได้กระทำผิด เงื่อนไขของการเตาบัตในสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำผิดและความผิดที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลใดๆ มี 3 เงื่อนไขหลัก คือ

  1. ต้องถอนตัวออกจากการกระทำผิดนั้น
  2. ต้องสำนึกและเสียใจในสิ่งที่ได้กระทำนั้น
  3. ต้องไม่หวนกลับไปทำในสิ่งที่ได้กระทำผิดนั้นอีก

      ถ้าขาดเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งในสามเงื่อนไขนี้ การเตาบัตหรือการกลับเนื้อกลับตัวนั้นถือว่ายังไม่ถูกต้องและเป็นโมฆะ

      ถ้าความผิดที่ได้กระทำไปนั้นเกี่ยวข้องกับบุคคลคนอื่น เงื่อนไขของการเตาบัตก็จะเพิ่มอีกหนึ่งเงื่อนไข คือ ต้องสร้างความบริสุทธิ์กับคนๆ นั้น

  • ถ้าเกี่ยวข้องกับเงินทอง จะต้องคืนเขาหรือวิธีการอื่นที่เจ้าของ(หรือผู้เกี่ยวข้อง)เขาพอใจ
  • ถ้าไปขัดขวางหรือสิ่งอื่นใดในลักษณะนี้ ก็ต้องคืนอำนาจหรือความสามารถให้แก่เขาหรือไปขออภัยจากตัวเขา
  • ถ้านินทาว่าร้ายเขา ก็ต้องไปขอให้เขาคิดหะลาล(ยกโทษ)ให้

      จะต้องเตาบะฮฺหรือเตาบัต ทุกความผิดที่ได้กระทำบาปมา ถ้าเตาบัตจากความผิดที่ได้กระทำมาเพียงบางส่วน ก็ถือว่าใช้ได้สำหรับคนที่เกี่ยวข้องกับกระทำผิดนั้น ส่วนบาปจากความผิดอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เตาบัตนั้นถือว่ายังคงมีบาปอยู่

      หลักฐานที่บ่งบอกว่าการเตาบัติเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำนั้น มีให้เห็นชัดเจนจากอัลกุรอาน หะดีษนบีและการเห็นตรงกันของบรรดาอุลามาอฺนักวิชาการที่เป็นที่ยอมรับในอิสลาม

อัลลอฮฺ-ตะอาลา- ได้ตรัสว่า

وَتُوبُوا إِلَى اللَّهِ جَمِيعاً أَيُّهَ الْمُؤْمِنُونَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ

(และพวกเจ้าทั้งหลายจงขอลุแก่โทษ(เตาบะฮฺ)ต่ออัลลอฮฺเถิด โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับชัยชนะ) (อันนูร 24:31)

وَأَنِ ٱسۡتَغۡفِرُواْ رَبَّكُمۡ ثُمَّ تُوبُوٓاْ إِلَيۡهِ

(และพวกท่านจงขอนิรโทษจากพระเจ้าของพวกท่าน แล้วจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์) (ฮูด 11:3)

أَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ تُوبُوٓاْ إِلَى ٱللَّهِ تَوۡبَةٗ نَّصُوحًا

(โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงขอลุแก่โทษแด่อัลลอฮฺด้วยการลุแก่โทษอย่างจริงจังเถิด) (อัตตะหฺรีม 66:8)

คำอธิบาย

เตาบะฮฺหรือเตาบัต เป็นภาษาอาหรับมาจากคำว่า التَوْبَة มาจากรากศัทท์ของคำว่า تَابَ، يَتُوبُ  แปลว่า "เมื่อกลับมา" ซึ่งในความหมายตามหลักศาสนบัญญัติแล้ว หมายถึง "หันกลับมาจากที่ได้กระทำในสิ่งที่ผิดตามบทบัญญัติอิสลาม ทำผิด(มะอฺศิยะฮฺ)ต่ออัลลอฮฺ สู่การกระทำที่อัลลอฮฺโปรดปราน เป็นบ่าวผู้ภักดีและทำตามที่อัลลอฮฺทรงใช้"

การเตาบะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการหันกลับมาจากที่เคยปฏิเสธต่อพระเจ้า(กุฟุร) สู่การศรัทธามั่นในอัลลอฮฺ อันดับสองคือการเตาบะฮฺจากได้กระทำในบาปใหญ่[1] แล้วอันดับที่สามคือเตาบะฮฺจากบาปเล็กๆ

สรุปก็คือ ทุกคนย่อมทำผิด ผิดมากผิดน้อยขึ้นอยู่กับอีมานและความสำนึกของแต่ละบุคคล ดังนั้น การเตาบัตนี้จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องกระทำ

ท่านนบี(ศ็อลฯ)กล่าวว่า

كلُّ بني آدمَ خطَّاءٌ وخيرُ الخطَّائين التوابونَ

(ลูกหลานท่านนบีอาดัม(มนุษย์)ทุกคนจะต้องทำผิด และคนทำผิดที่ดีที่สุดคือ คนที่เตาบัต) (อัตติรมีซียฺ : 2499,อะหฺมัด :13049)

เงื่อนไขในการเตาบัตอย่างที่อิมามอันนนะวาวียฺกล่าวว่า ในข้างต้นนั้นมี 3 + 1 เงื่อนไข แต่ถ้าเรียงตามขั้นตอนแล้วจะพบว่าอย่างน้อยต้องมี 5 เงื่อนไขหลัก คือ

  1. ต้องอิคลาศ ลิลลาฮฺ หมายถึง จะเตาบัตได้จนเป็นที่ยอมรับของการเตาบัตนั้น สิ่งแรกเริ่มที่ต้องทำคือต้องมาจากใจ ด้วยความจริงไจ ทำไปเพื่ออัลลอฮฺ ไม่ใช่ทำไปเพื่อให้คนเห็น หรือเพื่อให้เขาเลือกเราเป็นผู้แทนราษฎร เป็นกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน หรือเพื่อสิ่งอื่นใดที่ไม่ใช่ทำไปเพราะเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ
  2. จะต้องรู้สำนึกว่าสิ่งที่ได้ทำไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี รู้สึกผิด และเสียใจอย่างแท้จริง ที่ได้พลาดกระทำลงไป ซึ่งการรู้สึดผิดนี้เป็นสิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่าคนๆ นั้นต้องการที่จะเตาบัตอย่างแท้จริง
  3. ต้องถอดถอนสิ่งที่ได้ทำผิด ถือว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเตาบัต เช่น ผิดเพราะไม่ได้ละหมาดหรือไม่ได้ถือศีลอด(ซึ่งเป็นบาปใหญ่) การถอนจากการกระทำผิดนี้ คือ ต้องละหมาดทันที หรือต้องถือศีลอดตามวาระที่สั่งใช้ และสิ่งที่ขาดหรือผิดเพราะไม่ได้ทำมานั้นต้องทยอยทำชดใช้ และถ้าเป็นการงานที่กระทำและอิสลามห้ามกระทำในสิ่งนั้น ก็ต้องหยุดกระทำทันที เช่น การทำไม่ดีกับพ่อแม่ ก็ต้องทำดีทันที ด้วยวิธีการต่างๆที่ ทำให้พ่อแม่สบายหรือพอใจ ถ้าเคยหลอกลวงหรือโกหกคนอื่นก็ต้องหยุดกระทำในสิ่งนั้น และการเตาบัตและไม่กระทำผิดแล้วนั้นไม่จำเป็นต้องประกาศหรือให้คนอื่นรู้ว่าเราเคยทำผิดอะไรไว้ ส่วนกรณีการนินทาคนอื่น อุลามาอฺมีความเห็นว่า ถ้าคนที่ถูกนินทารู้ว่านินทาเขาก็จะต้องไปขอโทษเขาและให้เขายกโทษให้ ส่วนคนที่ยังไม่รู้ว่าเรานินทาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปบอกเขา เพียงแต่ในกล่าวถึงเขาในคราวต่อไปควรกล่าวถึงความดีของเขาและสรรเสริญเขา เพราะอุลามาอฺมีความเห็นว่า การกระทำดีจะทำให้สิ่งที่ไม่ได้เลือนหายไป
  4. ต้องตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่กลับไปทำในผิดนั้นอีก
  5. ต้องทำในเวลาที่ยังเปิดรับการเตาบะฮฺ ซี่งมีสองลักษณะ คือ ก่อนสิ้นลมหายใจ หรือก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันตก (ถึงวันกะยามะฮฺ)

คนที่เตาบัตหรือคนที่สำนึกตัวว่าทำผิด จะไม่หวนกลบไปทำสิ่งนั้นอีก และขอลุโทษจากอัลลออฺ คนลักษณะนี้จะเป็นผู้ที่ประสบผลสำเร็จและได้รับชัยชนะ อย่างที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในอายะฮฺอัลกุรอานในซูเราะฮฺ อันนูร 24:31 ตามที่ได้ยกมาข้างต้น …วัลลอฮุอะอฺลัม

—————————————————————–

[1] บาปใหญ่หรืออัลกะบาอิรฺ หมายถึงการกระทำที่ทำให้ได้รับบาปมากหรือใหญ่ บรรดาอุลามอฺมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องจำนวนของบาปใหญ่ บ้างว่ามี 7 บ้างว่า มี 70 หรือ 700 แต่ที่แน่ๆ คือ บาปใหญ่ในแต่ละชนิดมีขนาดไม่เท่ากัน ส่วนคนที่บอกว่ามี 7 อย่าง เขายึดตามหะดีษนบี(ศ็อลฯ) ที่ว่า

‏ ‏عَنْ ‏ ‏أَبِي هُرَيْرَةَ    أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏قَالَ ‏: ‏ اجْتَنِبُوا السَّبْعَ الْمُوبِقَاتِ ‏ ‏قِيلَ يَا رَسُولَ اللَّهِ وَمَا هُنَّ قَالَ الشِّرْكُ بِاللَّهِ وَالسِّحْرُ وَقَتْلُ النَّفْسِ الَّتِي حَرَّمَ اللَّهُ إِلَّا بِالْحَقِّ وَأَكْلُ مَالِ الْيَتِيمِ  وَأَكْلُ الرِّبَا ‏ ‏وَالتَّوَلِّي ‏ ‏يَوْمَ ‏ ‏الزَّحْفِ ‏ ‏وَقَذْفُ ‏ الْمُحْصِنَاتِ  ‏الْغَافِلَاتِ الْمُؤْمِنَاتِ (رواه مسلم)

รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ ว่า ท่านเราะซูล(ศอลฯ)ได้กล่าวว่า “พวกท่านจงหลีกห่างจากบาปใหญ่เจ็ดชนิด มีผู้กล่าวว่า มันคืออะไรบ้างครับท่านเราะซูล?  ท่านได้ตอบว่า มันคือ การทำชิริกต่ออัลลอฮฺ การยุ่งเกี่ยวกับไสยศาสตร์ การฆ่าชีวิตที่อัลลอฮฺทรงห้าม ยกเว้นด้วยความชอบธรรม(ตามหลักศาสนา) การกินทรัพย์เด็กกำพร้า การกินดอกเบี้ย การหนีทัพในวันประจัญหน้า และการใส่ร้ายหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องว่า ทำซินา” (บันทึกโดยอิมามมุสลิม:89)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น