وحَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ عُبَيْدٍ الْغُبَرِيُّ ، حَدَّثَنَا أَبُو عَوَانَةَ ، عَنْ أَبِي حَصِينٍ ، عَنْ أَبِي صَالِحٍ ، عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ ، قَال : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ :ـ
" مَنْ كَذَبَ عَلَيَّ مُتَعَمِّدًا ، فَلْيَتَبَوَّأْ مَقْعَدَهُ مِنَ النَّارِ " .
ความว่า :
และได้รายงานแก่เราโดย มุหัมมัด อิบนุ อุบัยดฺ อัล-ฆุบารียฺ ได้รายงานแก่เรา โดย อะบู อะวานะฮฺ จาก อะบี หะศีน จาก อะบีศอลิฮฺ จากอะบูหุร็อยเราะฮฺ ได้กล่าว่า่ .. ท่านเราะซูลุลลอฮฺ-ศ็อลฯ- ได้กล่าวว่า..
"ผู้ใดได้กล่าวเท็จในตัวฉันด้วยความตั้งใจ จงครอบครองที่นั่งของเขาในนรก"
-----------------
หะดีษทั้ง 3 หะดีษที่ผ่านมา เป็นหะดีษที่เกี่ยวกับห้ามกล่าวเท็จในตัวท่านนบี กล่าวคือ ที่ไม่ใช่หะดีษบอกว่าหะดีษ ถ้าได้กระทำลงไปนับว่ามีความผิดอย่างใหญ่หลวง การกล่าวเท็จในความรู้ทั่วไปก็ไม่ควรกระทำเช่นกันโดยเฉพาะกล่าวเท็จในตัวนักวิชาการหรืออุลามาอฺที่เป็นผู้รู้ในเรื่องศาสนา และโดยพื้นฐานทั่วไปแล้วการกล่าวเท็จนั้นไม่ควรจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะกับมุสลิมที่ศรัทธาในอัลลอฮฺ ศรัทธาในศาสดาอย่างแท้จริง
เป็นที่รู้กันดีในวงการหะดีษว่า หะดีษที่บันทึกโดยท่านมุสลิมนี้ เป็นหะดีษที่น่าเชื่อถือมากรองจากหะดีษที่บันทึกโดยอัลบุคอรี โดยเฉพาะหะดีษที่มีการบันทึกทั้งสองคนอย่างที่ยกมาในที่ทั้งสามหะดีษ ความน่าเชื่อถือของหะดีษนี้ก็มีมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ตามนักศึกษาหะดีษบางคนก็ยังได้พบว่าหะดีษของท่านอิมามมุสลิมนี้บางหะดีษยังมีหะดีษที่อยู่ในระดับความน่าเชื่อถือที่อ่อน(เฎาะอีฟ) ก็ไม่อาจปฎิเสธได้ แต่เมื่อเจอหะดีษเฎาะอีฟแล้ว ท่านมุสลิมก็ได้เขียนในบทนำของหนังสือของเขาว่า จะต้องบอกด้วยว่าหะดีษที่กล่าวมานั้นเป็นหะดีษเฎาะอีฟ เพื่อที่คนที่ฟังจะได้นำไปพิจรณาในการปฎิบัตใช้
นักวิชาการในการศาสนาบางท่านได้นำเสนอว่า การนำหะดีษเฎาะอีฟไปใช้นั้น มีเงื่อนไขอยู่ 3 อย่าง
- ต้องไม่เป็นหะดีษเฎาะอีฟที่อยู่ในระดับเฎาะอีฟมากๆ
- หะดีษเฎาะอีฟนั้น มีต้นต่อมาจากหะดีษเศาะหีหฺ
- และไม่ยึดมั่นว่าหะดีษเฎาะอีฟที่ว่านี้เป็นคำพูดของท่านนบี-ศ็อลฯ-
แน่นอนหะดีษเฎาะอีฟนี้ไม่สามารถที่จะนำไปโต้แย้งในการกำหนดบทบัญญัติได้ กล่าวคือ ไม่สามารถที่จะตัดสินว่าคนนั้นถูกหรือผิดตามหะดีษเฎาะอีฟนี้ได้ กระทำได้เพียงในการสนับสนุนในการทำดีในบางอย่าง .. วัลลอฮฺอะอฺลัม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น