วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 76(78) : เรื่อง ออกไปแสวงหาความรู้

 

แม้จะไกลแค่ไหน ลำบากอย่างไร ก็ออกไปหา



ญาบิรฺ อิบนุอับดุลลอฮฺ ได้เดินทางไปหาอับดุลลอฮฺ อิบนุอุไนซ เป็นเวลานานถึง 1 เดือน เพื่อเพียงแค่หะดีษเดียว 

78 حَدَّثَنَا أَبُو الْقَاسِمِ خَالِدُ بْنُ خَلِيٍّ قَاضِي حِمْصَ قَالَ حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ حَرْبٍ قَالَ حَدَّثَنَا الْأَوْزَاعِيُّ أَخْبَرَنَا الزُّهْرِيُّ عَنْ عُبَيْدِ اللَّهِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ عُتْبَةَ بْنِ مَسْعُودٍ عَنْ ابْنِ عَبَّاسٍ أَنَّهُ تَمَارَى هُوَ وَالْحُرُّ بْنُ قَيْسِ بْنِ حِصْنٍ الْفَزَارِيُّ فِي صَاحِبِ مُوسَى فَمَرَّ بِهِمَا أُبَيُّ بْنُ كَعْبٍ فَدَعَاهُ ابْنُ عَبَّاسٍ فَقَالَ إِنِّي تَمَارَيْتُ أَنَا وَصَاحِبِي هَذَا فِي صَاحِبِ مُوسَى الَّذِي سَأَلَ السَّبِيلَ إِلَى لُقِيِّهِ هَلْ سَمِعْتَ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَذْكُرُ شَأْنَهُ فَقَالَ أُبَيٌّ نَعَمْ سَمِعْتُ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَذْكُرُ شَأْنَهُ يَقُولُ  بَيْنَمَا مُوسَى فِي مَلَإٍ مِنْ بَنِي إِسْرَائِيلَ إِذْ جَاءَهُ رَجُلٌ فَقَالَ أَتَعْلَمُ أَحَدًا أَعْلَمَ مِنْكَ قَالَ مُوسَى لَا فَأَوْحَى اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ إِلَى مُوسَى بَلَى عَبْدُنَا خَضِرٌ فَسَأَلَ السَّبِيلَ إِلَى لُقِيِّهِ فَجَعَلَ اللَّهُ لَهُ الْحُوتَ آيَةً وَقِيلَ لَهُ إِذَا فَقَدْتَ الْحُوتَ فَارْجِعْ فَإِنَّكَ سَتَلْقَاهُ فَكَانَ مُوسَى صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ يَتَّبِعُ أَثَرَ الْحُوتِ فِي الْبَحْرِ فَقَالَ فَتَى مُوسَى لِمُوسَى أَرَأَيْتَ إِذْ أَوَيْنَا إِلَى الصَّخْرَةِ فَإِنِّي نَسِيتُ الْحُوتَ وَمَا أَنْسَانِيهِ إِلَّا الشَّيْطَانُ أَنْ أَذْكُرَهُ قَالَ مُوسَى ذَلِكَ مَا كُنَّا نَبْغِي فَارْتَدَّا عَلَى آثَارِهِمَا قَصَصًا فَوَجَدَا خَضِرًا فَكَانَ مِنْ شَأْنِهِمَا مَا قَصَّ اللَّهُ فِي كِتَابِهِ


ความว่า :

อะบู อัลกอซิม คอลิด บิน คอลีย์ ผู้พิพากษาเมืองฮิมซี ได้บอกเราว่ามุหัมมัด บิน หะรฺบิน ได้บอกเรา อัล เอาซาอีย์ ได้แจ้งเราว่า อัซซุฮรีย์ ได้รับรายงานจากอุไบยดิลลาฮฺ อิบนุอับดุลลอฮฺ อิบนุอุตบะฮฺ อิบนุมัซอูดว่า ได้รับรายงานจาก อิบนุ อับบาซ ว่า

เขาและอัลหุรฺรุ อิบนุไกซฺ อิบนุหิศนิ อัลฟะซารีย์ โต้แย้งเกี่ยวกับสหายของนบีมูซา(อะลัยฮิซซะลาม) อุไบ อิบนุกะอับ ก็ได้เดินผ่านพวกเขาทั้งสอง อิบนุอับบาซก็เรียกเขา แล้วบอกเขาว่า  "ฉันและเพื่อนของฉันกำลังโต้เถียงกันเกี่ยวกับสหายของนบีมูซาที่ถูกถามเกี่ยวกับเส้นทางที่ทำจะไปพบเขา ท่านเคยได้ยินท่านนบี(ศ็อลฯ)บอกเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่" [อุไบ อิบนุกะอับ] กล่าวว่า : "ระหว่างที่นบีมูซาอยู่ท่ามกลางชนเผ่าบะนีอิสมาอีล มีชายคนหนึ่งเข้ามาถามว่า: เจ้ารู้จักคนที่รู้ยิ่งกว่าไหม?" มูซา(อะลัยฮิสลาม) กล่าวว่า "ไม่" ดังนั้น อัลลอฮฺ(ตะอาลา)ได้ทรงวะหฺยูแก่นบีมูซาว่า "มีบ่าวของเราชื่อเคาะดิรฺ" ดังนั้น มูซา(อะลัยฮิสสลาม)จึงขอพบเขา อัลลอฮ์ทรงให้ปลาสัญญาณ และมีผู้บอกเขาว่า "ถ้าปลาหายก็กลับมาเดี๋ยวก็เจอเขา"  มูซา(อะลัยฮิสสลาม) จึงเดินตามร่องรอยของปลาในทะเล คนใช้ของนบีมูซากล่าวแก่ท่านว่า:  "ท่านมิเห็นดอกหรือ เมื่อเราพักอยู่ที่ก้อนหิน แท้จริงฉันลืมที่จะพูดถึงเรื่องปลาและไม่มีผู้ใดที่ทำให้ฉันลืมกล่าวถึงมันนอกจากชัยฏอน"(18:63)  และมูซา(อะลัยฮิสลาม) ได้กล่าวว่า "(นบีมูซา)เขากล่าวว่า นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการหา ดังนั้น ทั้งสองจึงหวนกลับตามร่องรอยไปที่เดิม"(18:64) แล้วทั้งสองก็ได้พบกับเคาะฎิรฺ ตามที่ทั้งสองต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องที่อัลลอฮฺได้ลิขิตไว้ในคัมภีร์ของพระองค์


วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 75(77) : เรื่อง เมื่อไรสามารถเชื่อฟังคำพูดของเด็กได้

 

ภาพเด็กอายุ 5 ขวบ กำลังคิดอยู่


77 حَدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ يُوسُفَ قَالَ حَدَّثَنَا أَبُو مُسْهِرٍ قَالَ حَدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ حَرْبٍ حَدَّثَنِي الزُّبَيْدِيُّ عَنْ الزُّهْرِيِّ عَنْ مَحْمُودِ بْنِ الرَّبِيعِ قَالَ عَقَلْتُ مِنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَجَّةً مَجَّهَا فِي وَجْهِي وَأَنَا ابْنُ خَمْسِ سِنِينَ مِنْ دَلْوٍ

ความว่า :

มุหัมมัด อิบนุยูซุฟ ได้บอกแก่ฉันว่า อะบูมุซฮิริน ได้บอกแก่เราว่า มุหัมมัด อิบนุหะรฺบิน ได้บอกแก่ฉันว่า อัซซุไบดีย์ ได้บอกแก่ฉันว่า อัซซุฮรีย์ ได้รายงานว่า รางานจากมะหฺมูด อิบนุรเราะบีอฺ ว่า 

 ฉันคิด(จำ)ได้จากท่านนบี(ศ็อลฯ) ท่านได้พ่นน้ำจากปากของฉันมาที่ใบหน้าของฉัน และฉันในเวลานั้นอายุ 5 ขวบ 


เศาะหีหุลบุคอรีย์ 74(76) : เรื่อง เมื่อไรสามารถเชื่อฟังคำพูดของเด็กได้

 





76 حَدَّثَنَا إِسْمَاعِيلُ بْنُ أَبِي أُوَيْسٍ قَالَ حَدَّثَنِي مَالِكٌ عَنْ ابْنِ شِهَابٍ عَنْ عُبَيْدِ اللَّهِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ عُتْبَةَ عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ عَبَّاسٍ قَالَ أَقْبَلْتُ رَاكِبًا عَلَى حِمَارٍ أَتَانٍ وَأَنَا يَوْمَئِذٍ قَدْ نَاهَزْتُ الِاحْتِلَامَ وَرَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يُصَلِّي بِمِنًى إِلَى غَيْرِ جِدَارٍ فَمَرَرْتُ بَيْنَ يَدَيْ بَعْضِ الصَّفِّ وَأَرْسَلْتُ الْأَتَانَ تَرْتَعُ فَدَخَلْتُ فِي الصَّفِّ فَلَمْ يُنْكَرْ ذَلِكَ عَلَيَّ

ความว่า : 

อิสมาอีล อิบนุอะบูอุไวซฺ ได้บอกแก่เราว่า มาลิกได้บอกแก่ฉันว่า ชิฮาบ ได้รายงานว่า รายงานจากอุไบดิลลาฮฺ อิบนุอับดุลลอฮฺ อิบนุอุตบะฮฺ ว่า อับดุลลอฮฺ อิบนุอับบาซได้ยรายงานว่า 

 "ฉันขี่ลาตัวเมียมา และในเวลานั้นฉันเกือบจะฝันเปียก(ถึงวัยศาสนภาวะ)แล้ว ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)กำลังละหมาดอยู่ที่มินาและไม่มีอะไรกั้น ฉันก็เดินผ่านหน้าบางแถว และฉันก็ปล่อยให้ลาตัวเมียนั้นไปหากินตามที่มันชอบ แล้วฉันก็เข้าไปในแถว(ละหมาด) ไม่มีใครว่าอะไรฉัน"


 

  


เศาะหีหุลบุคอรีย์ 73(75) : เรื่อง คำพูดของท่านนบี(ศ็อลฯ) "โอ้อัลลอฮฺขอให้พระองค์สอนคัมภีร์แก่เขาด้วยเถิด"

 



75 حَدَّثَنَا أَبُو مَعْمَرٍ قَالَ حَدَّثَنَا عَبْدُ الْوَارِثِ قَالَ حَدَّثَنَا خَالِدٌ عَنْ عِكْرِمَةَ عَنْ ابْنِ عَبَّاسٍ قَالَ ضَمَّنِي رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَقَالَ اللَّهُمَّ عَلِّمْهُ الْكِتَابَ

ความว่า : 

อะบูมะอฺมัรฺ ได้บอกแก่เราว่า อับดุลวาริษได้บอกแก่เราว่า คอลิดได้บอกแก่เราว่าได้รับรายงานจาก อิกริมะฮฺ ว่า อิบนุอับบาซ ได้รายงานว่า

 ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้สวมกอดฉัน และท่านก็กล่าวว่า "อัลลอฮุมมา โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์สอนคัมภีร์แก่เขาด้วยเถิด"

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 72(74) : เรื่อง นบีมูซาเดินทางในทะเลพบกับอัลเคาะฎิรฺ

 

อัลลอฮฺได้ตรัสว่า ..

 هَلْ أَتَّبِعُكَ عَلَى أَنْ تُعَلِّمَنِي مِمَّا عُلِّمْتَ رُشْدًا

ความว่า : ะให้ฉันติดตามท่านไปได้ไหม โดยท่านจะต้องสอนฉันจากสิ่งที่ท่านได้เคยเรียนรู้มา ตามแนวทางที่เที่ยงตรง (ซูเราะฮฺ อัลคะฮฺฟิ : 66)


74 حَدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ غُرَيْرٍ الزُّهْرِيُّ قَالَ حَدَّثَنَا يَعْقُوبُ بْنُ إِبْرَاهِيمَ قَالَ حَدَّثَنِي أَبِي عَنْ صَالِحٍ عَنْ ابْنِ شِهَابٍ حَدَّثَهُ أَنَّ عُبَيْدَ اللَّهِ بْنَ عَبْدِ اللَّهِ أَخْبَرَهُ عَنْ ابْنِ عَبَّاسٍ أَنَّهُ تَمَارَى هُوَ وَالْحُرُّ بْنُ قَيْسِ بْنِ حِصْنٍ الْفَزَارِيُّ فِي صَاحِبِ مُوسَى قَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ هُوَ خَضِرٌ فَمَرَّ بِهِمَا أُبَيُّ بْنُ كَعْبٍ فَدَعَاهُ ابْنُ عَبَّاسٍ فَقَالَ إِنِّي تَمَارَيْتُ أَنَا وَصَاحِبِي هَذَا فِي صَاحِبِ مُوسَى الَّذِي سَأَلَ مُوسَى السَّبِيلَ إِلَى لُقِيِّهِ هَلْ سَمِعْتَ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَذْكُرُ شَأْنَهُ قَالَ نَعَمْ سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ بَيْنَمَا مُوسَى فِي مَلَإٍ مِنْ بَنِي إِسْرَائِيلَ جَاءَهُ رَجُلٌ فَقَالَ هَلْ تَعْلَمُ أَحَدًا أَعْلَمَ مِنْكَ قَالَ مُوسَى لَا فَأَوْحَى اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ إِلَى مُوسَى بَلَى عَبْدُنَا خَضِرٌ فَسَأَلَ مُوسَى السَّبِيلَ إِلَيْهِ فَجَعَلَ اللَّهُ لَهُ الْحُوتَ آيَةً وَقِيلَ لَهُ إِذَا فَقَدْتَ الْحُوتَ فَارْجِعْ فَإِنَّكَ سَتَلْقَاهُ وَكَانَ يَتَّبِعُ أَثَرَ الْحُوتِ فِي الْبَحْرِ فَقَالَ لِمُوسَى فَتَاهُ أَرَأَيْتَ إِذْ أَوَيْنَا إِلَى الصَّخْرَةِ فَإِنِّي نَسِيتُ الْحُوتَ وَمَا أَنْسَانِيهِ إِلَّا الشَّيْطَانُ أَنْ أَذْكُرَهُ قَالَ ذَلِكَ مَا كُنَّا نَبْغِي فَارْتَدَّا عَلَى آثَارِهِمَا قَصَصًا فَوَجَدَا خَضِرًا فَكَانَ مِنْ شَأْنِهِمَا الَّذِي قَصَّ اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ فِي كِتَابِهِ

ความว่า : 

มุหัมมัด อิบนุฆุร็อรฺ อัซซุฮรีย์ ได้บอกแก่ฉันว่า ยะอฺกูบ อิบนุ อิบรอฮีม ได้บอกแก่เราว่า บิดาของฉันได้บอกแก่ฉันว่า ศอลิหฺ ได้รายงานว่า ชิฮาบได้รายงานว่า ได้บอกแก่เขาว่า อุไบดฺ อิบนุอุไบดิลลาอฺ อิบนุอับดุลลอฮฺ ได้เล่าให้เขาว่า รายงานจาก อิบนุอับบาซ ว่า เขาได้โต้เถียงกับกับอัลหุรฺรุ อิบนุก็อช อิบนุหิศนิน อัลฟาซารีย์ ในเรื่องสหายของนบีมูซา อิบนุอับบาซบอกว่าคนนั้นคือ เคาะฎิรฺ อุไบญ์ อิบนุกะอับ ก็ได้เดินผ่านมา อิบนุอับบาซ ได้เรียกเขามา แล้วกล้วกว่า "ฉันได้โต้เถียงกับเพื่อนของฉันในเรื่องของสหายนบีมูซา ที่นบีมูซาถามหาทางที่จะพบเขา ท่านได้ยินท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้กล่าวถึงบ้างไหม" เขาตอบว่า "ใช่ .. ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) กล่าวว่า ระหว่างที่นบีมูซาอยู่ท่ามกลางชนชาวบะนีอิสรออีล ก็ชายคนหนึ่งเข้ามาหาท่าน แล้วกล่าวว่า "ท่านรู้จักชายที่รู้ดีกว่าท่าน" นบีมูซาตอบว่า "ไม่รู้จัก" อัลลอฮฺก็ได้วะหฺยูลงมายังมูซาว่า "ใช่..เป็นบ่าวของฉัน ชื่อ เคาฎิรฺ" นบีมูซาก็ถามถึงทางที่จะไปหาเขา อัลลอฮฺก็ได้ดลให้ปลาตัวหนึ่งเป็นสัญลักษณ์่นำทาง และบอกแก่ท่านว่าเมื่อเจ้าหลงจากปลา เจ้าก็กลับไปยังท่ปลาหาย เจ้าก็จะได้พบเขา นบีมูซาก็ได้ตามปลาไปในทะเล เด็กของนบีมูซาก็ได้กล่าวว่า "ท่านมิเห็นดอกหรือ เมื่อเราพักอยู่ที่ก้อนหิน แท้จริงฉันลืมที่จะพูดถึงเรื่องปลาและไม่มีผู้ใดที่ทำให้ฉันลืมกล่าวถึงมันนอกจากชัยฏอน"(18:63) "(นบีมูซา)เขากล่าวว่า นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการหา ดังนั้น ทั้งสองจึงหวนกลับตามร่องรอยไปที่เดิม"(18:64) แล้วทั้งสองก็ได้พบกับเคาะฎิรฺ ตามที่ทั้งสองต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องที่อัลลอฮฺได้ลิขิตไว้ในคัมภีร์ของพระองค์


เศาะหีหุลบุคอรีย์ 71(73) : เรื่อง ความปลาบปลื้มใจในความรู้และปัญญา

อุมัรฺได้กล่าวว่า "พวกเจ้าจงศึกษาและเข้าใจในความรู้ก่อนที่จะเป็นผู้นำ""

อิมามอัลบุคอรีย์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "บรรดาเศาะหาบะฮฺนบี(ศ็อลฯ)ได้ศึกษาหาความรู้ตอนอายุมากแล้ว" (การเป็นผู้นำอาจจะเป็นอุปสรรคในการศึกษาหาความรู้)


 

 

73 حَدَّثَنَا الْحُمَيْدِيُّ قَالَ حَدَّثَنَا سُفْيَانُ قَالَ حَدَّثَنِي إِسْمَاعِيلُ بْنُ أَبِي خَالِدٍ عَلَى غَيْرِ مَا حَدَّثَنَاهُ الزُّهْرِيُّ قَالَ سَمِعْتُ قَيْسَ بْنَ أَبِي حَازِمٍ قَالَ سَمِعْتُ عَبْدَ اللَّهِ بْنَ مَسْعُودٍ قَالَ قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَا حَسَدَ إِلَّا فِي اثْنَتَيْنِ رَجُلٌ آتَاهُ اللَّهُ مَالًا فَسُلِّطَ عَلَى هَلَكَتِهِ فِي الْحَقِّ وَرَجُلٌ آتَاهُ اللَّهُ الْحِكْمَةَ فَهُوَ يَقْضِي بِهَا وَيُعَلِّمُهَا

ความว่า :

อัลหุไมดีย์ได้บอกแก่เราว่า ซุฟยานได้บอกแก่เราว่า อิสมาอีล อิบนุอะบูคอลิด ได้บอกแก่ฉันที่นอกเหนือจากที่อัลหุไมดีย์ได้บอกแก่เขาว่า 

ฉันได้ยินไกซฺ อิบนุอะบูหาซิม ได้กล่าวว่า ฉันได้ยิน อับดุลลอฮฺ อิบนุมัซอูด ได้กล่าวว่า ท่า่นนบี(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า 

"ห้ามอิจฉา(ที่ไม่ใช่ริษยา)*เว้นแต่ 2 อย่าง คือ ชายคนหนึ่งที่อัลลอฮฺได้ประทานทรัพย์สินแก่เขา แล้วเขาก็ได้ดูแลการใช้จ่ายในทางที่ถูกต้อง กับชายที่อัลลอฮฺประทานภูมิปัญญา(หิกมะฮฺ)แก่เขา เขาก็ได้นำไปใช้ปฏิบัติและได้สอนในสิ่งนั้น"

 


* ในหะดีษใช้คำว่า الحسد ซึ่งแปลว่าอิจฉาริษยา แต่ ณ ตรงนี้จะมีความหมายตรงกับคำว่า الغبطة แปลว่า อิจฉา ที่ไม่ทำลายคนอื่น 




เศาะหีหุลบุคอรีย์ 70(72) : เรื่อง เข้าใจในความรู้

 




72 حَدَّثَنَا عَلِيُّ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ حَدَّثَنَا سُفْيَانُ قَالَ قَالَ لِي ابْنُ أَبِي نَجِيحٍ عَنْ مُجَاهِدٍ قَالَ صَحِبْتُ ابْنَ عُمَرَ إِلَى الْمَدِينَةِ فَلَمْ أَسْمَعْهُ يُحَدِّثُ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِلَّا حَدِيثًا وَاحِدًا قَالَ كُنَّا عِنْدَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأُتِيَ بِجُمَّارٍ فَقَالَ إِنَّ مِنْ الشَّجَرِ شَجَرَةً مَثَلُهَا كَمَثَلِ الْمُسْلِمِ فَأَرَدْتُ أَنْ أَقُولَ هِيَ النَّخْلَةُ فَإِذَا أَنَا أَصْغَرُ الْقَوْمِ فَسَكَتُّ قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ هِيَ النَّخْلَةُ

ความว่า : 

อาลี อิบนุอับดุลลอฮฺ ได้บอกแก่เราว่า ซุฟยานได้บอกแก่เราว่า ลูกชายของอะบูนะญีหฺ ได้รับรายงานจากมุญาฮิดว่า "ฉันได้เดินทางกับอิบนุอุมัรฺไปยังเมืองมะดีนะฮฺ ฉันไม่เคยได้ยินหะดีษจากท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)เลย นอกจากหะดีษเดียวเท่านั้น  เขากล่าวว่า 

ระหว่างที่ฉันอยู่กับท่านนบี(ศ็อลฯ)อยู่นั้นก็มีคนเอาลูกอินตผาลัมมาให้ แล้วท่านก็ได้กล่าวว่า "จริงแล้วในบรรดาต้นไม้ต่าง ๆ มีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่งที่เปรียบเสมือนคนมุสลิม" ฉันต้องการที่บอกว่ามันคือต้นอินตผาลัม แต่ว่าฉันเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ฉันเลยเงียบ ท่านนบี(ศ็อลฯ) กล่าว่า "มันคือ ต้นอินตผาลัม"  

 

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 69(71) : เรื่อง คนที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ประทานความดีงามแก่เขา พระองค์ทรงให้ให้เขาเข้าใจในศาสนา

 



71 حَدَّثَنَا سَعِيدُ بْنُ عُفَيْرٍ قَالَ حَدَّثَنَا ابْنُ وَهْبٍ عَنْ يُونُسَ عَنْ ابْنِ شِهَابٍ قَالَ قَالَ حُمَيْدُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ سَمِعْتُ مُعَاوِيَةَ خَطِيبًا يَقُولُ سَمِعْتُ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ مَنْ يُرِدْ اللَّهُ بِهِ خَيْرًا يُفَقِّهْهُ فِي الدِّينِ وَإِنَّمَا أَنَا قَاسِمٌ وَاللَّهُ يُعْطِي وَلَنْ تَزَالَ هَذِهِ الْأُمَّةُ قَائِمَةً عَلَى أَمْرِ اللَّهِ لَا يَضُرُّهُمْ مَنْ خَالَفَهُمْ حَتَّى يَأْتِيَ أَمْرُ اللَّهِ


ความว่า : 

ซะอีด อิบนุ อุไฟรฺ ได้บอกแก่เรา่า อิบนุวะหฺบิน ได้บอกแก่เราว่า ยูนุซ ได้รายงานว่า มีรายงานจากชีฮาบว่า หุไมดฺ อิบนุอับดุลเราะฮฺมาน ได้กล่าวว่า 

 ฉันได้ยินมุอาวิยะฮฺได้กล่าวปาฐกถาว่า "ฉันได้ยินท่านนบี(ศ็อลฯ) กล่าวว่า ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ประทานควาดีงามแก่เขา พระองค์ทรงให้ให้เขาเข้าใจในศาสนา ส่วนฉันคือผู้แบ่งปัน แท้จริงอัลลอฮฺนั้นคือผู้ให้  และประชาชาตินี้จะยังคงยืนหยัดบนแนวทางของอัลลอฮฺ ไม่มีผู้ใดที่ขัดแย้งกับพวกเขาจะทำอันตรายแก่พวกเขาเหล่านั้นได้จนกระทั่งวันกิยามะฮฺได้มาถึง


เศาะหีหุลบุคอรีย์ 68(70) : เรื่อง คนที่เตรียมเวลาสำหรับผู้รู้ในวันเวลาที่แน่นอน

 

حَدَّثَنَا عُثْمَانُ بْنُ أَبِي شَيْبَةَ قَالَ حَدَّثَنَا جَرِيرٌ عَنْ مَنْصُورٍ 

عَنْ أَبِي وَائِلٍ قَالَ كَانَ عَبْدُ اللَّهِ يُذَكِّرُ النَّاسَ فِي كُلِّ خَمِيسٍ فَقَالَ لَهُ رَجُلٌ يَا أَبَا عَبْدِ الرَّحْمَنِ لَوَدِدْتُ أَنَّكَ ذَكَّرْتَنَا كُلَّ يَوْمٍ قَالَ أَمَا إِنَّهُ يَمْنَعُنِي مِنْ ذَلِكَ أَنِّي أَكْرَهُ أَنْ أُمِلَّكُمْ وَإِنِّي أَتَخَوَّلُكُمْ بِالْمَوْعِظَةِ كَمَا كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَتَخَوَّلُنَا بِهَا مَخَافَةَ السَّآمَةِ عَلَيْنَا


ความว่า :

อุษมาน อิบนุอะบูไชบะฮฺ ได้บอกแก่เราว่า ญะรีรฺ ได้บอกแก่เราว่า มันศูร ได้รายงานว่า 

อะบู อาอิล ได้รายงานว่า อับดุลลอฮฺได้กล่าวให้ผู้คนสำนึกในทุกวันพฤหัส มีชายคนหนึ่งได้กล่าวแก่ท่านว่า โอ้..อะบูอับดุรเราะฮฺมาน ฉันชอบให้ท่านให้กล่าวให้เราสำนึกทุกวัน ท่านก็กล่าวว่า 

"ในเรื่องนี้ฉันทำไม่ได้ ฉันไม่ชอบให้พวกเจ้ารู้สึกไม่พอใจที่ฉันให้พวกเจ้าเหนื่อยหน่ายเกินไป ฉันจะกำหนดวันเวลาตักเตือนแก่พวกเจ้าอย่างฉันเจน อย่างที่ท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้กำหนดวันเวลาในเรื่องนี้อย่างชัดเจน เพราะจะกลัวเป็นพิษเป็นภัยแก่พวกเรา" 

 

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 67(69) : เรื่อง

 

69 حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ بَشَّارٍ قَالَ حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ سَعِيدٍ قَالَ حَدَّثَنَا شُعْبَةُ قَالَ حَدَّثَنِي أَبُو التَّيَّاحِ 

عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ يَسِّرُوا وَلَا تُعَسِّرُوا وَبَشِّرُوا وَلَا تُنَفِّرُوا

 ความว่า 

มุหัมมัด อิบนุบะชารฺ ได้บอกแก่เราว่า ยะหฺยา อิบนุซะอีด ได้บอกแก่เราว่า ชุอฺบะฮฺ ได้บอกแก่เรา่า อะบูอัตไตยาหฺ ได้บอกแก่ฉันว่า 

 อะนัซ อิบนุมาลิก ได้รายงานว่า ท่านนบี(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

 "พวกเจ้าจงทำให้มันง่ายดาย อย่าทำให้มันยาก และจงทำให้มีความสุข อย่าทำให้วิ่งหนี"

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 66(68) : เรื่อง ท่านนบี(ศ็อลฯ)จัดการเวลาการให้คำตักเตือนและความรู้เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาวิ่งหนี

 


حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ يُوسُفَ قَالَ أَخْبَرَنَا سُفْيَانُ عَنْ الْأَعْمَشِ عَنْ أَبِي وَائِلٍ عَنْ ابْنِ مَسْعُودٍ قَالَ

 كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَتَخَوَّلُنَا بِالْمَوْعِظَةِ فِي الْأَيَّامِ كَرَاهَةَ السَّآمَةِ عَلَيْنَا

 มุหัมมัด อิบนุยูซุฟ ได้บอกแก่เราว่า ซุฟยานได้รายงานว่า อัลอะอฺมัช ได้รายงาน อะบูวาอิลได้รับรายงานจาก อิบนุมัซอูดว่า 

ท่านนบี(ศ็อลฯ) จัดการเวลาแก่พวกเราการตักเตือนในเวลาที่เราไม่พอใจ


บาทเรียนจากหะดีษนี้

  • ในการให้คำตักเตือนหรือสอนนักเรียนเมื่อพบว่าเด็กไม่พร้อมที่จะเรียน หรือเด็กเกิดความเหนื่อยหน่ายในความรู้ที่เราจะสอนนั้น ก็ควรหาเวลาที่เหมาะสมเป็นเวลาที่เด็กพร้อมที่จะเรียนและไม่หนีจากครูที่กำลังสอนทั้งกายและใจ 

เศาะหีหุลบุคอรีย์ ..(..) : เรื่อง ความรู้ก่อนการพูดและการกระทำ

 

อัลลอฮฺ ได้ตรัสว่า 

فَٱعۡلَمۡ أَنَّهُۥ لَآ إِلَٰهَ إِلَّا ٱللَّهُ 

(ฉะนั้นพึงรู้เถิดว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด (ที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้) นอกจากอัลลอฮฺ) (มุหัมมัด 27:19)

เริ่มต้นด้วยความรู้ ผู้รู้(ในความรู้อิสลาม)นั้นคือผู้สืบทอดมรดกของบรรดานบี สืบทอดความรู้และผู้ใดได้รับการสืบทอดนี้นับเป็นการได้รับสิ่งที่ดีและสมบูรณ์เต็มเปียม และผู้ใดสร้างแนวทางเพื่อศึกษาหาความรู้ อัลลอฮฺก็จะสร้างแนวทางแก่เขาสู่สวนสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย 

อัลลอฮฺได้ตรัสอีกว่า 

(إِنَّمَا يَخۡشَى ٱللَّهَ مِنۡ عِبَادِهِ ٱلۡعُلَمَٰٓؤُاْۗ)

(แท้จริงบรรดาผู้ที่มีความรู้จากปวงบ่าวของพระองค์เท่านั้นที่เกรงกลัวอัลลอฮฺ) (ฟาฏิร 35:28)

وَمَا يَعۡقِلُهَآ إِلَّا ٱلۡعَٰلِمُونَ

(แต่ไม่มีผู้ใดคิดตระหนักมันหรอก นอกจากผู้มีความรู้) (อัลอังกะบูต 29:43)

 وَقَالُواْ لَوۡ كُنَّا نَسۡمَعُ أَوۡ نَعۡقِلُ مَا كُنَّا فِيٓ أَصۡحَٰبِ ٱلسَّعِيرِ

(และพวกเขากล่าวอีกว่า หากพวกเราฟังและใช้สติปัญญาใคร่ครวญ พวกเราก็จะมิได้มาอยู่เป็นชาวนรกอย่างนี้ดอก) (อัลมุลุก 67:10)

  قُلۡ هَلۡ يَسۡتَوِي ٱلَّذِينَ يَعۡلَمُونَ وَٱلَّذِينَ لَا يَعۡلَمُونَۗ 

 (จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) บรรดาผู้รู้และบรรดาผู้ไม่รู้จะเท่าเทียมกันหรือ?) (อัซซุมัรฺ 39:9)

ท่านนบี(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า 

  مَنْ يُرِدْ اللَّهُ بِهِ خَيْرًا يُفَقِّهْهُ فِي الدِّينِ 

 (ผู้ใดอัลลอฮประสงค์ให้เขาได้รับความดีงาน พระองค์จะทรงให้เขาเข้าใจในศาสนา)

وَإِنَّمَا الْعِلْمُ بِالتَّعَلُّمِ

(และแท้จริงความรู้เกิดขึ้นจากการศึกษา)

อะบูซัรฺ ได้กล่าว่า ว่า

หากพวกเจ้าดาบที่คมกริบจ่อที่นี้  แล้วเขาก็ชี้ไปที่ท้ายทอยของเขา -  เขากล่าวว่าฉันคิดว่าฉันก็จะเผยแพร่คำสอนของท่านนบี(ศ็อลฯ) ก่อนที่ฉันก่อนที่พวกท่านจะตอกย้ำเพื่อให้ฉันทำ"

อิบนุอับบาซ กล่าวว่า 

พวกท่านจงเป็นผู้ฝึกฝน" ( رَبَّانِيِّينَ :ร็อบบานียีน) นักปราชญ์ ผู้เข้าใจ กล่าวกันว่า คำว่า ร็อบบานี ก็คือผู้ที่ฝึกฝนความรู้ให้เด็กจนติดเป็นนิสัยก่อนที่เขาจะเติบใหญ่

 

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 65(67) : เรื่อง คำกล่าวของท่านนบี(ศ็อลฯ) บางทีคนที่เผยแพร่ความรู้อาจจะเข้าใจดีกว่าคนฟัง

 


(ภาพประกอบเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับบุคคลในหะดีษ)

67 حَدَّثَنَا مُسَدَّدٌ قَالَ حَدَّثَنَا بِشْرٌ قَالَ حَدَّثَنَا ابْنُ عَوْنٍ عَنْ ابْنِ سِيرِينَ عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ أَبِي بَكْرَةَ عَنْ أَبِيهِ ذَكَرَ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَعَدَ عَلَى بَعِيرِهِ وَأَمْسَكَ إِنْسَانٌ بِخِطَامِهِ أَوْ بِزِمَامِهِ قَالَ أَيُّ يَوْمٍ هَذَا فَسَكَتْنَا حَتَّى ظَنَنَّا أَنَّهُ سَيُسَمِّيهِ سِوَى اسْمِهِ قَالَ أَلَيْسَ يَوْمَ النَّحْرِ قُلْنَا بَلَى قَالَ فَأَيُّ شَهْرٍ هَذَا فَسَكَتْنَا حَتَّى ظَنَنَّا أَنَّهُ سَيُسَمِّيهِ بِغَيْرِ اسْمِهِ فَقَالَ أَلَيْسَ بِذِي الْحِجَّةِ قُلْنَا بَلَى قَالَ فَإِنَّ دِمَاءَكُمْ وَأَمْوَالَكُمْ وَأَعْرَاضَكُمْ بَيْنَكُمْ حَرَامٌ كَحُرْمَةِ يَوْمِكُمْ هَذَا فِي شَهْرِكُمْ هَذَا فِي بَلَدِكُمْ هَذَا لِيُبَلِّغ الشَّاهِدُ الْغَائِبَ فَإِنَّ الشَّاهِدَ عَسَى أَنْ يُبَلِّغَ مَنْ هُوَ أَوْعَى لَهُ مِنْهُ


ความว่า 

มุซัดดาด ได้บอกแก่เราว่า บิชรุนได้บอกแก่เรา่า อิบนุเอานิน ได้บอกแก่ว่า อิบนุซีรีน ได้รายงานว่า อับดุรเราะหฺมาน อิบนุอะบูบักเราะฮฺ ได้รายงานจากบิดาของขาว่า บิดาของเขาได้พูดถึงท่านนบี(ศ็อลฯ)ว่า

ท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้นั่งบนอูฐของท่านระหว่างที่คนกำลังจับสายจมูกอูฐของท่าน ท่านกล่าวว่า "วันนี้วันอะไร? " พวกเราเงียบ กระทั้งคิดว่าท่านจะเรียกชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชื่อของวันนี้ ท่านก็กล่าวว่า "ไม่ใช่วันนะหฺริ(อันอีดอัฎฮา)กระนั้นหรือ?" พวกเราก็ตอบว่า "ใช่" ท่านกล่าวต่อว่า "แล้วเดือนนี้เดือนอะไร?" พวกเราก็เงียบ กระทั้งเราคิดว่าท่านจะเรียกชื่ออื่นไม่ใช่ชื่อของเดือนนี้ ท่านก็กล่าวต่อว่า "ไม่ใช่เดือนซุลหิจญะฮฺกระนั้นหรือ?" พวกก็ตอบว่า "ใช่" ท่านก็กล่าวว่า .. 

 "แท้จริงเลือดของพวกเจ้า ทรัพย์สินของพวกเจ้า เกียรติของพวกเจ้า เป็นที่ต้องห้ามอย่างวันนี้ที่เป็นวันที่ต้องห้ามสำหรับพวกเจ้า เดือนนี้เป็นเดือนต้องห้ามสำหรับพวกเจ้า ในเมืองที่ต้องห้ามนี้ของพวกเจ้า ขอให้คนที่อยู่ในที่นี้บอกต่อแก่คนที่ไม่อยู่ เพราะคนที่อยู่นั้นอาจจะกลับไปบอกแก่ผู้ที่เข้าใจดีกว่าเขาก็เป็นได้

 

บทเรียนจากหะดีษนี้

  • สามารถที่จะนั่งสอนบนอูฐหรือสัตว์ที่เป็นพาหนะอื่นๆ ได้ ถ้าไม่เป็นการสร้างความทรมานแก่สัตว์นั้นมากเกินไป แต่ถ้าพาหนะนั้นเป็นรถยนต์ จักรยานยนต์หรืออื่นๆในลักษณะสิ่งของเช่นนี้ก็สามารถที่กระทำได้ เพาะท่านนบีเคยนั่งสอนบนอูฐ
  • ครูหรือผู้สอนสามารถกล่าวนำด้วยคำถามนำได้ 
  • การที่นักเรียนไม่ตอบ ไม่ได้หมายความนักเรียนไม่รู้เสมอไป บางทีที่เขาเงียบเขาหวังที่จะได้สิ่งอื่นๆ เกินกว่าความรู้ที่เขามีอยู่
  • นักเรียนที่นั่งฟังในห้องเรียนหรือห้องประชุมจากครูหรือผู้บรรยายเอง หรือประสบด้วยตัวตนเองจริงๆ ย่อมได้เรียนรู้มากกว่าคนที่นั่งฟังวิทยุ เทปหรือเสียงอย่างเดียว หรือแม้กระทั้งที่เป็นวิดิโอ 

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 64(66) : เรื่อง คนที่นั่งเป็นคนสุดท้ายในที่ประชุมและคนที่เห็นมีที่ว่างและนั่งในที่ว่างนั้น

 

66 حَدَّثَنَا إِسْمَاعِيلُ قَالَ حَدَّثَنِي مَالِكٌ عَنْ إِسْحَاقَ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ أَبِي طَلْحَةَ أَنَّ أَبَا مُرَّةَ مَوْلَى عَقِيلِ بْنِ أَبِي طَالِبٍ أَخْبَرَهُ عَنْ أَبِي وَاقِدٍ اللَّيْثِيِّ

 أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بَيْنَمَا هُوَ جَالِسٌ فِي الْمَسْجِدِ وَالنَّاسُ مَعَهُ إِذْ أَقْبَلَ ثَلَاثَةُ نَفَرٍ فَأَقْبَلَ اثْنَانِ إِلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَذَهَبَ وَاحِدٌ قَالَ فَوَقَفَا عَلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأَمَّا أَحَدُهُمَا فَرَأَى فُرْجَةً فِي الْحَلْقَةِ فَجَلَسَ فِيهَا وَأَمَّا الْآخَرُ فَجَلَسَ خَلْفَهُمْ وَأَمَّا الثَّالِثُ فَأَدْبَرَ ذَاهِبًا فَلَمَّا فَرَغَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ

  أَلَا أُخْبِرُكُمْ عَنْ النَّفَرِ الثَّلَاثَةِ أَمَّا أَحَدُهُمْ فَأَوَى إِلَى اللَّهِ فَآوَاهُ اللَّهُ وَأَمَّا الْآخَرُ فَاسْتَحْيَا فَاسْتَحْيَا اللَّهُ مِنْهُ وَأَمَّا الْآخَرُ فَأَعْرَضَ فَأَعْرَضَ اللَّهُ عَنْهُ

ความว่า :

อิสมาอีล ได้บอกเราเราว่า มาลิกได้บอกแก่ฉันว่า อิซหาก อิบนุอับดุลลอฮฺ อิบนุฏอลหะฮฺ ว่า อะบูมุรเราะฮฺ ท่านอะกีล อิบนุ อะบูฏอลิล ได้เล่าให้เขาฟังว่า อะบูวากิด อัลไลษีย์ ได้รายงานว่า 

ระหว่างที่ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) นั่งอยู่ในมัสยิดและมีผู้คนนั่งอยู่กับท่าน อยู่ๆ ก็มีชายสามคน สองคนได้เข้าหาท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) และอีกคนก็ได้เดินออกไป สองคนมายืนหน้าท่านเราะซูลุลลอฮฺ คนหนึ่งได้เห็นที่ในวงสนทนาว่างอยู่ก็ไปนั่ง ณ ที่ว่างนั้น ส่วนอีกคนก็นั่งข้างหลัง ส่วนคนที่สามก็หันหลังและเดินออกไป และเมื่อท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ว่าง ท่านก็กล่าวว่า :

"จะเอาไหม ฉันจะเล่าแก่พวกเจ้าเกี่ยวชายทั้ง 3 คนนี้ คนแรกหันเข้าอัลลอฮฺ อัลลอฮฺก็จะรับเขา คนที่สองอาย อัลลอฮฺก็แก่อายเขา ส่วนคนที่สามเขาหันหลัง อัลลอฮฺก็หันหลังให้แก่เขา" 

 

 บทเรียนจากหะดีษนี้

      1. أَلَا أُخْبِرُكُمْ (จะเอาไหม ฉันจะบอกพวกเจ้า) เป็นลักษณะการสอนลักษณะหนึ่งของท่านนบี(ศ็อลฯ) ที่เป็นแบบอย่างสำหรับครูหรือผู้ที่ต้องสอนหรือบอกอะไรที่เป็นสาระแก่ลูกศูษย์หรือผู้ฟัง คือ เมื่อท่านจะสอนอะไร ลักษณะหนึ่งท่านจะใช้คำถามนำ เช่น จะเอาไหม ถ้าฉันจะบอก... เป็นการจูงใจหรือกระตุ้นให้คนฟังสนใจในสิ่งที่จะพูดหรือจะสอนเขา นอกจากนี้บางทัศนะของนักวิชาการอิสลามว่า บางครั้งการที่ถามแบบนี้ไม่จำเป็นจะต้องรอคำตอบว่าเขาจะฟังหรือเขาพร้อมที่จะเรียนหรือไม่ เมื่อสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ควรสอนหรือควรบอกก็ต้องบอกทันที อย่างในหะดีษนี้ท่านไม่รอคำตอบแต่ท่านจะสอนทันที
      2. ลักษณะของผู้ฟังหรือผู้เรียนมีอยู่ 3 ประเภท คือ 
        1. คนพร้อมที่จะเรียน และตั้งใจเต็มที่  พร้อมที่จะรับคำสอน คนพวกนี้นอกจากจะได้บุญแล้วจากการเรียนรู้ของเขา อัลลอฮฺก็จะตอบสนองให้เขาได้เรียนรู้ตามที่เขาพึงประสงค์หรือมากกว่านั้น
        2. คนที่มีลักษณะอายๆ เหมือนพร้อมที่จะเรียนแต่ก้ำกึ่ง ในหะดีษนี้กล่าวว่าคนแบบนี้อัลลอฮฺก็จะอายแก่เขาด้วย หมายความผลที่เขาจะได้รับก็ไม่เต็มที่ด้วย
        3. คนที่หันหลังให้ หมายความว่า คนที่ไม่ตั้งใจจะเรียนเลย คนประเภทนี้อัลลอฮฺก็จะไม่สนใจเขาด้วย ฉะนั้นคนประเภทนี้นับว่าเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะได้รับความรู้ หรือที่เราเรียกว่าไม่ตั้งใจเรียน
      3. นักเรียนหรือผู้ที่เข้ามาร่วมเรียน ควรจะหาที่นั่งที่ว่าง ถ้าไม่มีให้ไปนั่งท้ายสุดหรือถ้ามีที่ว่างหระหว่างนั้นให้นั่ง ณ ที่ว่างนั้น แต่อย่างไปนั่งที่บดบังหรือรบกวนคนอื่น 
      4. เพื่อนนักเรียนหรือผู้เรียนที่นั่งอยู่แล้วถ้าสามารถขยับให้ว่างเพื่อให้คนใหม่มานั่ง ก็ควรขยับเปิดกว้างให้เขานั่ง เพราะอัลลอฮฺได้ตรัสในซูเราะฮฺ อัลมุญาดะละฮฺ อายะฮฺที่ 11 ว่า 
        يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُوٓاْ إِذَا قِيلَ لَكُمۡ تَفَسَّحُواْ فِي ٱلۡمَجَٰلِسِ فَٱفۡسَحُواْ يَفۡسَحِ ٱللَّهُ لَكُمۡۖ 
        (โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย เมื่อได้มีเสียงกล่าวแก่พวกเจ้าว่า จงเปิดกว้างในที่นั่งประชุม พวกเจ้าก็จงเปิดกว้าง เพราะอัลลอฮฺจะทรงให้ที่กว้างขวางแก่พวกเจ้า) (อัลกุรอาน 58:11)

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 63(65) : เรื่อง การให้ของขวัญและหนังสือความรู้แก่นักวิชาการแก่เมืองต่างๆ



 

65 حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ مُقَاتِلٍ أَبُو الْحَسَنِ الْمَرْوَزِيُّ أَخْبَرَنَا عَبْدُ اللَّهِ قَالَ أَخْبَرَنَا شُعْبَةُ عَنْ قَتَادَةَ عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ كَتَبَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كِتَابًا أَوْ أَرَادَ أَنْ يَكْتُبَ فَقِيلَ لَهُ إِنَّهُمْ لَا يَقْرَءُونَ كِتَابًا إِلَّا مَخْتُومًا فَاتَّخَذَ خَاتَمًا مِنْ فِضَّةٍ نَقْشُهُ مُحَمَّدٌ رَسُولُ اللَّهِ كَأَنِّي أَنْظُرُ إِلَى بَيَاضِهِ فِي يَدِهِ فَقُلْتُ لِقَتَادَةَ مَنْ قَالَ نَقْشُهُ مُحَمَّدٌ رَسُولُ اللَّهِ قَالَ أَنَسٌ

ความว่า :

มุฮัมมัด อิบนุมุกอติล อะบู อลหะซัน อัลมัรฺวะซีย์ ได้บอกแก่เราว่า อับดุลลอฮฺ ได้เล่าแก่เราว่า ชุอฺบะฮฺ ได้เล่าแก่เราว่า รายงานจากเกาะตาดะฮฺว่า อะนัซ อิบนุมาลิก ได้รายงานว่า 

ท่านนบี ได้เขียนหนังสือ หรือ ต้องการที่จะเขียน แล้วมีคนมาบอกท่านว่า พวกเขาไม่อ่านหนังสือนอกจากมีตราประทับ ท่านจึงเอาแวนเงินที่สลักชื่อ مُحَمَّدٌ رَسُولُ اللَّهِ (มุฮัมมัด ศาสนทูตของอัลลอฮฺ) เหมือนกับว่าฉันได้เห็นประกายสีขาวอกจากมือของท่าน

ฉันได้กล่าวแก่เกาะตาดะฮฺว่า ใครกล่าว  สลักชื่อ مُحَمَّدٌ رَسُولُ اللَّهِ (มุฮัมมัด ศาสนทูตของอัลลอฮฺ)

เขากล่าวว่า อะนัซ 

เศาะหีหุลบุคอรีย์ 62(64) : เรื่อง การให้ของขวัญและหนังสือความรู้แก่นักวิชาการแก่เมืองต่างๆ

เรื่อง การให้ของขวัญและหนังสือความรู้แก่นักวิชาการแก่เมืองต่างๆ

อะนัซ อิบนุมาลิก ได้กล่าวว่า อุษมาน อิบนุอัฟฟาน ได้คัดลอกเล่มอัลกุรอานและสิ่งไปยังเมืองต่างๆ และอับดุลอฮฺ อิบนุอุมัรฺ ยะหฺยา อิบน ซะอีด และมาลิก อิบนุอะนัซได้รายงานว่า สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะชาวเมืองอัลหิญาซฺ(มักกะฮฺ มะดีนะฮฺและอื่นๆ)จำเป็นที่จะต้องส่งหนังสือที่เป็นหะดีษนบีไปยังที่ต่างๆ โดยครั้งหนึ่งได้เขียนถึงแก่ผู้นำกองกำลังแล้วกำชัดว่าอย่าอ่านหนังสือนี้จนกว่าจะถึงที่นั้นที่นี้ และเมื่อเขาไปถึงเมืองเป้าหมายนั้นแล้วเขาก็อื่นหนังสือนั้นแก่ชุมชนที่นั้น บอกพวกเขาในสิ่งที่คำสั่งของท่านนบี 


 

64 حَدَّثَنَا إِسْمَاعِيلُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ قَالَ حَدَّثَنِي إِبْرَاهِيمُ بْنُ سَعْدٍ عَنْ صَالِحٍ عَنْ ابْنِ شِهَابٍ عَنْ عُبَيْدِ اللَّهِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ عُتْبَةَ بْنِ مَسْعُودٍ أَنَّ عَبْدَ اللَّهِ بْنَ عَبَّاسٍ أَخْبَرَهُ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بَعَثَ بِكِتَابِهِ رَجُلًا وَأَمَرَهُ أَنْ يَدْفَعَهُ إِلَى عَظِيمِ الْبَحْرَيْنِ فَدَفَعَهُ عَظِيمُ الْبَحْرَيْنِ إِلَى كِسْرَى فَلَمَّا قَرَأَهُ مَزَّقَهُ فَحَسِبْتُ أَنَّ ابْنَ الْمُسَيَّبِ قَالَ فَدَعَا عَلَيْهِمْ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنْ يُمَزَّقُوا كُلَّ مُمَزَّقٍ

ความว่า : 

อิสมาอีล อิบนุอัลดุลลอฮฺ ได้บอกแก่เราว่า อิบรอฮีม อิบนุซะอัดได้บอกแก่ฉันว่า ศอลิฮฺ ได้รายงานว่า รายงานจากอิบนุชีฮาบ ว่า อุไบดุลลอฮฺ อิบนุอับดุลลอฮฺ อิบนุอุตบะฮฺ อิบนุมัซอูด ว่า อับดุลลอฮฺ อิบนุอับบาซ ได้บอกแก่เขาว่า

ท่านเราะซูลุลลอฮฺ  ได้ส่งหนังสือของท่านไปกับชายคนหนึ่ง และบอกให้ชายคนนั้นไปมอบหนังสือนั้นแก่ผู้นำบะหฺเรน์ แล้วผู้นำบะหฺเรน์มอบให้แก่กษัตริย์กิซรอ เมื่อกษัตริย์กิซรอได้อ่านก็ฉีกทิ้ง ฉัน(อิบนุชีฮาบ)คิดว่าอิบนุอัลมุไซยิบได้กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ดุอาให้พวกเขาฉีกทำลายพวกเขาอย่างไม่มีชิ้นดี

 

 


เศาะหีหุลบุคอรีย์ 61(63) : เรื่อง เกี่ยวกับความรู้และตำตรัสของอัลลอฮฺ "จงกล่าวเถิด โอ้พระผู้อภิบาลจงเพิ่มความรู้แก่ฉัน""

 

63 حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ يُوسُفَ قَالَ حَدَّثَنَا اللَّيْثُ عَنْ سَعِيدٍ هُوَ الْمَقْبُرِيُّ عَنْ شَرِيكِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ أَبِي نَمِرٍ أَنَّهُ سَمِعَ أَنَسَ بْنَ مَالِكٍ يَقُولُ بَيْنَمَا نَحْنُ جُلُوسٌ مَعَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي الْمَسْجِدِ دَخَلَ رَجُلٌ عَلَى جَمَلٍ فَأَنَاخَهُ فِي الْمَسْجِدِ ثُمَّ عَقَلَهُ ثُمَّ قَالَ لَهُمْ أَيُّكُمْ مُحَمَّدٌ وَالنَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مُتَّكِئٌ بَيْنَ ظَهْرَانَيْهِمْ فَقُلْنَا هَذَا الرَّجُلُ الْأَبْيَضُ الْمُتَّكِئُ فَقَالَ لَهُ الرَّجُلُ يَا ابْنَ عَبْدِ الْمُطَّلِبِ فَقَالَ لَهُ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَدْ أَجَبْتُكَ فَقَالَ الرَّجُلُ لِلنَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنِّي سَائِلُكَ فَمُشَدِّدٌ عَلَيْكَ فِي الْمَسْأَلَةِ فَلَا تَجِدْ عَلَيَّ فِي نَفْسِكَ فَقَالَ سَلْ عَمَّا بَدَا لَكَ فَقَالَ أَسْأَلُكَ بِرَبِّكَ وَرَبِّ مَنْ قَبْلَكَ آللَّهُ أَرْسَلَكَ إِلَى النَّاسِ كُلِّهِمْ فَقَالَ اللَّهُمَّ نَعَمْ قَالَ أَنْشُدُكَ بِاللَّهِ آللَّهُ أَمَرَكَ أَنْ نُصَلِّيَ الصَّلَوَاتِ الْخَمْسَ فِي الْيَوْمِ وَاللَّيْلَةِ قَالَ اللَّهُمَّ نَعَمْ قَالَ أَنْشُدُكَ بِاللَّهِ آللَّهُ أَمَرَكَ أَنْ نَصُومَ هَذَا الشَّهْرَ مِنْ السَّنَةِ قَالَ اللَّهُمَّ نَعَمْ قَالَ أَنْشُدُكَ بِاللَّهِ آللَّهُ أَمَرَكَ أَنْ تَأْخُذَ هَذِهِ الصَّدَقَةَ مِنْ أَغْنِيَائِنَا فَتَقْسِمَهَا عَلَى فُقَرَائِنَا فَقَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ اللَّهُمَّ نَعَمْ فَقَالَ الرَّجُلُ آمَنْتُ بِمَا جِئْتَ بِهِ وَأَنَا رَسُولُ مَنْ وَرَائِي مِنْ قَوْمِي وَأَنَا ضِمَامُ بْنُ ثَعْلَبَةَ أَخُو بَنِي سَعْدِ بْنِ بَكْرٍ وَرَوَاهُ مُوسَى بْنُ إِسْمَاعِيلَ وَعَلِيُّ بْنُ عَبْدِ الْحَمِيدِ عَنْ سُلَيْمَانَ بْنِ المُغِيرَةِ عَنْ ثَابِتٍ عَنْ أَنَسٍ عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِهَذَا


ความว่า : 

อับดุลลอฮฺ อิบนุยูซุฟ ไดบอกแก่เราว่า อัลไลษฺ อิบนุซะอีด คือ อัลมุกบุรีย์ ได้บอกแก่เราว่า ชะรีก อิบนุ อับดุลลอฮฺ อิบนุ อะบูนะมิริน ว่า เขาได้ยิน อะนัซ อิบนุมาลิก กล่าวว่า

 ระหว่างที่เรานั่งอยู่กับท่านนบี ในมัสยิด มีชายคนหนึ่งขี่อูฐเข้าในมัสยิดแล้วอูฐคุกเข่าลงในมัสยิดแล้วเขาก็มัดเข่าอูฐา แล้วกล่าวแก่บรรดาเศาะหาบะฮฺ(ที่อยู่ที่นั้น)ว่า 

"ในหมู่พวกเจ้านี้ใครคือมุฮัมมัด"

และนบีﷺ เอนกายอยู่ระหว่างพวกเรา เราจึงพูดว่า "คนตัวขาวที่นอนเอนกายอยู่"

เขาก็กล่าวแก่ท่านนบีว่า "โอ้ อิบนุ(บุตร)อับดุลมุฏเฏาะลิบ

ท่านนบี ก็ตอบว่า "ครับ ฉันอยู่นี่"

ชายคนนั้นกล่าวแก่ท่านนบี ว่า "ฉันจะถามท่าน เป็นคำถามหนักๆ อย่าคิดอะไรกับฉัน"

ท่านนบีตอบว่า "ถามมาเถอะ ตามที่เจ้าต้องการ

ชายคนนั้นกล่าวว่า "ฉันจะถามท่านด้วยพระนามของพระเจ้าของท่านและพระเจ้าของคนที่มาก่อนท่าน อัลลอฮฺส่งท่านมาแก่มวลมนุษย์ทั้งมวลใช่ไหม?"

ท่านนบีตอบว่า "ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ใช่"

เขาก็ถามต่อว่า "ในนามของอัลลอฮฺข้าวิงวอนต่อท่าน.. อัลลอฮฺทรงสั่งท่านให้พวกเราละหมาด 5 เวลาในเวลา 1 วัน 1 คืน?"

ท่านบี ตอบว่า "ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ใช่

เขาก็ถามต่ออีกว่า "ในนามของอัลลอฮฺข้าวิงวอนต่อท่าน.. อัลลอฮฺทรงสั่งท่านให้พวกเราถือศีลอดในเดือนนี้ในหนึ่งปี ?"

ท่านบี ตอบว่า "ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ใช่

เขาก็ถามต่ออีกว่า "ในนามของอัลลอฮฺข้าวิงวอนต่อท่าน.. อัลลอฮฺทรงสั่งให้ท่านเอาทรัพย์สินบริจาคจากคนร่ำรวยแล้วแจกจ่ายให้แก่คนจนของพวกเรา ?"

ท่านบี ตอบว่า "ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ใช่

ชายคนนั้นกล่าวว่า "ฉันศรัทธาในสิ่งที่ท่านนำมา และฉันเป็นตัวแทนคนที่อยู่ข้างหลังฉันในกลุ่มพรรคพวกของฉัน ฉันคือฎิมาม อิบนุษอฺละบะฮฺ พี่น้องชนเผ่าซะอัด อิบนุบักริน"

หะดีษนี้บันทึกโดย มูซา อิบนุอิสมาอีลและอะลีอิบนุ อับดุลหะมีด จากสุไลมาน อิบนุลมุฆีเราะฮฺ จากษาบิท จาก อะนัซ จากท่านนบี