วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ประเภทของจิต

จิตของมนุษย์มีหลายลักษณะ นักวิชาการอิสลามหรืออุลามาอฺได้มีความเห็นแตกต่างกันในการแบ่งประเภทของจิตที่ได้ประมวลมาจากอัลกุรอาน บางคนมีอยู่ 7 ประเภท 7 ระดับ บางคนว่ามี 13 ประเภท 13 ระดับ แต่ขอเลือกนำมาเสนอในที่ความเห็นที่ว่า จิตของมนุษย์ตั้งแต่เกิดมาจนถึงเสียชีวิตและกลับไปหาอัลลอฮฺมี 5 ประเภท คือ

  1. จิตสมบูรณ์(نفس سوية
وَنَفْسٍ وَمَا سَوَّاهَا فَأَلْهَمَهَا فُجُورَهَا وَتَقْوَاهَا
(และด้วยจิตและที่พระองค์ทรงทำให้มันสมบูรณ์ แล้วพระองค์ทรงดลใจมันให้รู้ทางชั่วของมันและทางสำรวมของมัน)(อัช-ชัมซฺ 91:7-8)
 سَوَّاهَا (เซาววาฮา) หมายถึงความสมดุลของร่างกายและพลังที่มีอยู่ในส่วนนั้น1 ซัยยิดกุฏุบได้กล่าวว่า นี้เป็นเป็นสิ่งโดดเด่นของอิสลามที่ให้แก่มนุษย์ มนุษย์จะมีสภาพทีสมดุลย์ ธรรมชาติที่ควบคู่ ความพร้อมที่ควบคู่และมีทิศทางที่ควบคู่2 ไม่หนักซ้ายหรือขวา ส่วนอิบนุกะษีรฺ ได้กล่าวว่า จิตสมดุลในที่นี้ หมายถึงอัลลอฮฺได้ทรงสร้างเรือนร่างของมนุษย์ที่สมดุล ตรงตามครรลองที่อัลลอฮฺกำหนด(ฟิฏเราะฮฺ) ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
فَأَقِمْ وَجْهَكَ لِلدِّينِ حَنِيفًا ۚ فِطْرَتَ اللَّهِ الَّتِي فَطَرَ النَّاسَ عَلَيْهَا ۚ لَا تَبْدِيلَ لِخَلْقِ اللَّهِ
(ดังนั้น เจ้าจงผินหน้าของเจ้าสู่ศาสนาที่เที่ยงแท้ (โดยเป็น) ธรรมชาติของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการสร้างของอัลลอฮฺ)(อัรฺรูม 30:30)
และเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ได้กล่าว
وَإِنِّي خَلَقْتُ عِبَادِي حُنَفَاءَ كُلَّهُمْ وَإِنَّهُمْ أَتَتْهُمُ الشَّيَاطِينُ ، فَاجْتَالَتْهُمْ عَنْ دِينِهِمْ
(แท้จริงฉันได้สร้างทาสของฉันดีทุกคน แต่ไชยฏอนได้มาหาพวกเขาทำให้พวกเขาห่างจากศาสนาของเขา )(มุสลิม :5103)3
และ
كُلُّ مَوْلُودٍ يُولَدُ عَلَى الْفِطْرَةِ ، فَأَبَوَاهُ يُهَوِّدَانِهِ أَوْ يُنَصِّرَانِهِ أَوْ يُمَجِّسَانِهِ
(เด็กที่คลอดออกมาทุกคนจะคลอดออกมาด้วยความบริสุทธิ์(ฟิฏเราะฮฺ) ดังนั้นพ่อแม่ของเขาเป็นคนที่ทำให้เขาเลือกวิถีชีวิตเป็นยิว เป็นนัศรอนี(คริสต์)หรือเป็นมุญูซี(บุชาไฟ))(อัลบุคอรี : 1302)
จิตสมบูรณ์หรือจิตสมดุลนี้แม้ว่าอัลลอฮฺได้กำหนดครรลองให้เดินไปสู่แนวทางที่เที่ยงตรงแล้ว อัลลอฮฺก็ยังให้อิสระในการเลือกที่จะเดิน ในเวลาเดียวกันอัลลอฮฺก็ได้ให้คัมภีร์และส่งศาสนทูตมาชี้แนวทางที่ถูกและแนวทางที่ผิดนั้นเป็นอย่างไร จากนั้นมนุษย์ก็เป็นคนเลือกเดินเอง เลือกด้วยจิตที่อัลลอฮฺประทานความอิสระในการตัดสินและเลือกทางเดิน 
  1. จิตใฝ่ต่ำหรือจิตที่ถูกครอบงำด้วยความชั่ว(النَّفْسَ لأَمَّارَةٌ بِالسُّوءِ)
จิตของมนุษย์นั้นจะมีสองสิ่งที่ขัดแย้งอยู่เสมอ จิตหนึ่งเป็นจิตที่พร้อมทำตามครรลองที่อัลลอฮฺกำหนดมา ด้วยการจูงและกระซิบกระทซาบของมะลาอิกะฮฺที่เป็นคู่สหายของมนุษย์ชวนให้ทำดีและมั่นคงในศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และในเวลาเดียวกันจะมีอีกจิตหนึ่งที่ครอบงำโดยมารร้ายหรือไชยฏอนที่คอยกระซิบกระซาบให้ทำแต่ในสิ่งชั่วร้าย  ตามที่ท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า 
 مَا مِنْكُمْ مِنْ أَحَدٍ إِلَّا وَقَدْ وُكِّلَ بِهِ قَرِينُهُ مِنَ الْجِنِّ " ، قَالُوا : وَإِيَّاكَ يَا رَسُولَ اللَّهِ ، قَالَ : " وَإِيَّايَ إِلَّا أَنَّ اللَّهَ أَعَانَنِي عَلَيْهِ ، فَأَسْلَمَ فَلَا يَأْمُرُنِي إِلَّا بِخَيْرٍ "
("ไม่มีใครสักคนจากพวกเจ้านอกจากจะมีตัวแทนที่เป็นสหายสนิทของเขาจากญิน(ไชฏอน)" เศาะหาบะฮฺก็ถามว่า "ท่านด้วยใช่ไหมท่านเราะซูลุลลอฮฺ ?" ท่านตอบว่า "ใช่ ฉันด้วย แต่อัลลอฮฺได้ช่วยเหลือฉัน ฉันจึงปลอดภัย")(มุสลิม :5039) 
มนุษย์ท่านใดจิตของเขาถูกครอบงำด้วยไชฏอน สิ่งที่เขาแสดงออกมากก็จะเป็นในทางที่ตรงกันข้ามคำสั่งสอนที่ดีงามของอิสลาม หรือเลือกทำให้สิ่งชั่ว สิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับของอิสลาม ดังกรณีที่เกิดขึ้นกับภรรยาข้าหลวงของเมืองอียิปต์โบราณที่หลงรักชายงาม ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ชายงามมาร่วมหลับนอนกับเขา แต่ชายงามคนนั้นเป็นนบีที่อัลลอฮฺช่วยเหลือเขามาตลอด ไม่ยอมทำตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเองหรือของหญิงงามนางนี้ จึงเกิดคดีความ เมื่อหลักฐานประจักษ์ว่าหญิงคนนี้คือคนผิดนางจึงรับสารภาพและกล่าวว่า 
وَمَا أُبَرِّئُ نَفْسِي ۚ إِنَّ النَّفْسَ لَأَمَّارَةٌ بِالسُّوءِ إِلَّا مَا رَحِمَ رَبِّي ۚ إِنَّ رَبِّي غَفُورٌ رَحِيمٌ  
(“และฉันไม่อาจชำระจิตใจของฉันให้สะอาดบริสุทธิ์ได้ แท้จริงจิตใจนั้นถูกครอบงำไว้ด้วยความชั่วนอกจากที่พระเจ้าของฉันทรงเมตตา แท้จริงพระเจ้าของฉันเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ”)(ยูซุฟ 12:53) 
  1. จิตสำนึกหรือจิตที่ตำหนิตัวเอง(النَّفْسِ اللَّوَّامَةِ)
เมื่อมนุษย์ถูกครอบงำด้วยไชฏอน ทำตามความต้องการของตัวเอง เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสิ่งรอบข้าง กระทำไปโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว แต่ทุกอย่างที่กระทำไปนั้นเพื่อตอบสนองความอยากตามที่สหายที่เป็นไชฏอนกระซิบกระซาบให้ทำ เมื่อเขารู้สึกตัวจะด้วยเหตุผลก็ตาม เขาใช้ปัญญาที่ฉลาดกว่าเดรัจฉานที่อัลลอฮฺประทานมาให้แก่เขา รู้และสำนึกในสิ่งที่เขากระทำไป เห็นถูกและเห็นผิด จึงเกิดการตำหนิตัวเองอย่างรุนแรง(เลามุน لوم) หันกลับมาพิจารณาตัวเองว่าเป็นใคร มาจากไหน มาทำไม และจะไปไหน และคนที่เป็นมุสลิมที่ศรัทธษ(มุมิน)นั้น เขาจะรู้ว่าเขามาจากดิน อัลลอฮฺสร้างเขามาเพื่อรับภาระ(อามานะฮฺ)ที่อัลลอฮฺมอบหมายให้ คือ เป็นเคาะลีฟะฮฺ ผู้สืบทอดและดูแลสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเขาบนโลกนี้แทนอัลลอฮฺ และหน้าที่หลักของเขาคือภักดี(อิบาดัต)ต่อพระองค์ รู้และศรัทธาอย่างแท้จริงว่า ถ้าทำตามที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ผลตอบแทนที่ได้คือ ความสุขสบายในสวนสวรรค์และในตรงกันข้ามถ้าไม่ทำตามบทบัญญัติผลตอบแทนที่จะได้คือการทรมานในนรก 
อัลลอฮฺได้ตัสว่
وَلَا أُقْسِمُ بِالنَّفْسِ اللَّوَّامَةِ 
(และข้าขอสาบานต่อชีวิตที่ประณามตนเอง)(อัล-กิยามะฮฺ 75:2)
สำนึกและประญามตัวเองทั้งสิ่งดีและไม่ดี อัลหะซันรายงานว่า "ในวันกิยามัตไม่มีใครในชั้นฟ้าและแผ่นดินทีีไม่สำนึกและประฌามตัวเอง" และอิบนุญะรีรฺกล่าวว่า "สำนึกและประฌามตัวเองทั้งดีและชั่ว และเสียใจในสิ่งที่ได้กระทำมา"(อิบนุกุษีรฺ)
  1. จิตบริสุทธิ(نفس ذكية)
เมื่อจิตได้สำนึกและการสำนึกของจิตเป็นการสำนึกในเวลาที่ไม่สายจนเกินไปที่จะแก้ ไม่ใช่สำนึกในวันสิ้นสุดหรือหลังจากฟื้นคืนชีพในวันกิยามัตแล้ว และเมื่อจิตได้สำนึกก็ได้พยายามสู่การกระทำที่ดีเพื่อที่จะได้ตอบสนองเป็นผลกรรมที่ดี มีพฤติกรรมที่ดีและได้รับผลตอบแทนที่ดีในอาณาคต พยายามขัดเกล่าจิต(จิตพยายาม:نفس مجاهدة) โดยได้เรียงลำดับดังต่อไปนี้
  • จิตวางแผนก่อนที่จะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกมา
  • จิตควบคุมการกระทของตัวเองให้อยู่ในกรอบของศาสนาทุกวินาที
  • จิตประเมิน เมื่อได้กระทำในการงานที่ได้วางแผนแล้วก็มีการประเมินในการกระทำนั้นว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าผิดจะได้สำนึก(เตาบัต)ไม่กระทำอีก เพื่อจะได้จิตบริสุทธิและห่างจากจิตที่โสมมด้วยสิ่งที่ไม่พีงประสงค์ 
อัลลอฮฺได้ตรัสเกี่ยวกับจิตบริสุทธินี้ไว้ว่า
وَنَفْسٍ وَمَا سَوَّاهَا  فَأَلْهَمَهَا فُجُورَهَا وَتَقْوَاهَا  قَدْ أَفْلَحَ مَنْ زَكَّاهَا  وَقَدْ خَابَ مَنْ دَسَّاهَا  
 (และด้วยจิตและที่พระองค์ทรงทำให้มันสมบูรณ์  แล้วพระองค์ทรงดลใจมันให้รู้ทางชั่วของมันและทางสำรวมของมัน  แน่นอนผู้ขัดเกลาจิตให้บริสุทธิย่อมได้รับชัยชนะ  และแน่นอนผู้ทำให้มันโสมม(ด้วยการทำชั่ว) ย่อมล้มเหลว)(อัช-ชัมชฺ 91:7-10)
บริสุทธิจากตัญหาราคะที่มาจากความอยากและการจูงใจจากไชฏอน อยากและต้องการอาหารการกินก็หากินแต่สิ่งที่เป็นหะลาลและฏ็อยิบัน(ทรงอนุญาตและมีคุณค่า) เมื่อถูกผลักดันจากตัญหาทางเพศก็ทำอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาและประเพณีนิยม ในเวลาเดี่ยวกันก็บริสุทธิจากความเชื่อที่ปนเปื้อนด้วยภาคีต่างๆที่ตั้ังไว้กับอัลลอฮฺ บริสุทธิจากการภักดี(อิบาดัต)ที่นอกเหนือจาก เกินเลยหรือบกพร่องจากสิ่งที่เราะซูลุลลอฮฺเคยสอนหรือเคยทำเป็นแบบอย่าง
  1. จิตสงบ(نفس مطمئة)  
เมื่อได้ขัดเกลาจิตให้สะอาดจากสิ่งโสมมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาเกาะติดกับจิตเป็นเรื่องไม่พึงประสงค์ปกติธรรมดา ที่เป็นพฤติกรรมที่สังคมไม่ต้องการ หรือเรื่องยิ่งใหญ่ที่เป็นต้นกำเนิดของพฤติกรรมอย่างความเชื่อในพระเจ้า ด้วยการหันกลับไปศรัทธาในพระเจ้าผู้ทรงสร้างอย่างแท้จริง ประพฤติปฎิบัติตามที่พระองค์ทรงปรารถนา ภักดีต่อพระองค์และทำอิบาดัตไม่เคยขาด 
อัลลอฮฺตรัสว่า 
يَا أَيَّتُهَا النَّفْسُ الْمُطْمَئِنَّةُ ارْجِعِي إِلَىٰ رَبِّكِ رَاضِيَةً مَرْضِيَّةً
(โอ้จิตที่สงบแน่นเอ๋ย  จงกลับมายังพระเจ้าของเจ้าด้วยความยินดีและเป็นที่ปิติเถิด)(อัล-ฟัจรฺ 89:27-28)
 สงบและมั่นใจอย่างมั่งคงอยู่กับความจริง(อิบนุกะษีร)
มั่นใจและยอมรับอยางสงบกับสัญญาของอัลลอฮฺที่มีต่อผู้ศรัทธาในสัญญานั้น และศรัทธาต่ออัลลอฮฺอย่างจริงจังว่าพระองค์คือพระเจ้าของเขาอยางแท้จริง(อัฏฏ็อบรอนี)
 ผลตอบแทนสุดท้ายของคนที่ขัดเกลาจิตให้สะอาดบริสุทธิจะได้เข้าสวรรค์
فَادْخُلِي فِي عِبَادِي وَادْخُلِي جَنَّتِي
(แล้วจงเข้ามาอยู่ในหมู่ปวงบ่าวของข้าเถิด และจงเข้ามาอยู่ในสวนสวรรค์ของข้าเถิด)(อัล-ฟัจรฺ 89:29-30)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น