จิตวิทยาคือการศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ ศึกษาความเป็นมาและเป็นไปของพฤติกรรมมนุษย์ จะเป็นพฤติกรรมที่กระทำต่อสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับการเปลี่ยนของตัวเองทั้งภายนอกและภายใน ดังนั้นคนที่จะศึกษาจิตวิทยาจะต้องศึกษามนุษย์และเข้าใจมนุษย์จริง ๆ นักวิชาการและนักปราชญ์ยุโรปเขาได้ศึกษามนุษย์และบันทึกให้พวกเราได้อ่านและได้รับรู้เป็นความรู้เกี่ยวกับมนุษย์ที่ได้จากสิ่งที่เขาสังเกตุ ทดลองและเปรียบเทียบ แล้วสรุปมาว่ามนุษย์จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งแน่นอนความรู้ที่เขาได้มานั้นถ้าถูกต้องก็จะถูกต้อง ณ เวลานั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความรู้เหล่านั้นอาจจะถูกและอาจจะผิดเป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะเขาไม่ใช่ผู้สร้างมนุษย์และไม่ใช่ผู้ออกแบบให้สร้างมนุษย์อย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง
การศึกษาเรื่องมนุษย์ที่ถูกต้องและไม่ต้องแก้ไขอีก 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้าอย่างวิชาการของคนตะวันตกที่ต้องแก้ไขเสมอ จะต้องศึกษาเรียนรู้จากผู้ที่ทำให้มนุษย์บังเกิดขึ้น ศึกษาจากตำราหรือคู่มือที่มาสอนมนุษย์ในเรื่องการใช้ชีวิตบนโลกนี้ นัั้นคือศึกษาจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานและจากศาสนทูตที่มาสอนและมาให้ความกระจ่างของคัมภีร์อัลกุรอานแก่เรา และที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นการกล่าวถึงชนิดของในมนุษยในมุมมองต่าง ๆ ตามที่อัลกุรอานที่บ่งบอกไว้
แบ่งตามเพศ
มนุษย์คนแรกที่อัลลอฮฺทรงสร้างขึ้นมาคืออาดัมซึ่งเป็นเพศชาย หลังจากนั้นอัลลอฮฺได้ทรงสร้างฮาวาที่เป็นเพศหญิงมาเป็นคู่ชีวิตของอาดัม และลักษณะของมนุษย์สองเพศนี้มีความแตกต่าง อัลลอฮฺได้ตรัสในซูเราะฮฺ อาละอิมรอนว่า
وَلَيْسَ الذَّكَرُ كَالْأُنْثَىٰ
(ชายนั้นไม่เหมือนหญิง)(อาละอิมรอน 3:36)
ผู้ชายกับผู้หญิงแม้ว่าจะเป็นมนุษย์ มีชีวิต มีความรู้สึก มีปัญญาและมีสิทธิในการเลือกทางเดินของตัวเองเหมือนกันแต่ทั้งสองก็ไม่เหมือนกัน โครงสร้างของร่างกายชายจะใหญ่และแข็งแกร่งกว่าหญิง หญิงมีอารมณ์อ่อนไหวมากกว่าชาย เสียงแหลมและทุ่มไม่เหมือนกัน ฯลฯ ดังนั้น พฤติกรรมที่แสดงออกของคนสองชนิดนี้แม้จะมีสิ่งร้าวเดี่ยวกันมาร้าวแต่ในบางครั้งการตอบสนองของทั้งสองเพศจะแตกต่างกัน ในการกำหมดระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ จึงต้องคำนึงความแตกต่างเหล่านี้ ในบทบัญญัติอิสลามอัลลอฮฺได้บัญญัติไว้หลายที่ที่ชายและหญิงมีความแตกต่างกัน เช่น เครื่องแต่งกาย ภาระการรับผิดชอบในบ้านและนอกบ้าน การเป็นพยาน เป็นต้นแบ่งตามเลือกแนวทางดำเนินชีวิต
อัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาและมาปล่อยมาดำรงชีวิตอยู่บนโลกนี้ด้วยวิธีการที่กำหนด โดยใช้คัมภีร์อัลกุรอานเสมือนคู่มือการดำเนินชีวิตและมีศาสนทูตหรือนบีหรือเราะซูลเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ
لِمَنْ كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ
لِمَنْ كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ
(โดยแน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงาม
สำหรับพวกเจ้าแล้วสำหรับผู้ที่หวัง(จะพบ) อัลลอฮฺและวันปรโลก)
(อัล-อะหซาบ 33:21)
สำหรับพวกเจ้าแล้วสำหรับผู้ที่หวัง(จะพบ) อัลลอฮฺและวันปรโลก)
(อัล-อะหซาบ 33:21)
แต่อัลลอฮฺได้ให้มนุษย์ตัดสินใจในการเลือกวิถีชีวิตตามที่ตัวเองชอบ มนุษย์จึงแบ่งได้ดังนี้
- มนุษย์ผู้ศรัทธาและยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ ยอมทำตามที่อัลลอฮฺกำหนด นั้นคือ ยอมนับถือและปฎิบัติตามศาสนาอิสลาม
- มนุษย์ที่ปฎิเสธที่จะศรัทธาในอัลลอฮฺ ปฎิเสธอิสลาม เราเรียกว่าคนกาฟิรฺ ใช้วิถีชีวิตที่กำหนดขึ้นมาเอง ศรัทธาและเชื่อในสิ่งที่ผิดๆ เช่น เชื่อต่อผีสางนางไม้ เชื่อต่อรูปปั้นที่ปั้นขึ้นมาเอง เชื่อต่อสั่งสอนที่เขียนขึ้นแล้วอ้างอิงถึงผีสางนางไม้ต่างๆ เป็นต้น
إِنَّا هَدَيْنَاهُ السَّبِيلَ إِمَّا شَاكِرًا وَإِمَّا كَفُورًا
(แท้จริงเราได้ชี้แนะแนวทางให้แก่เขาแล้ว
บางทีเขาก็เป็นผู้กตัญญู(ยอมจำนน)และบางทีเขาก็เป็นผู้เนรคุณ(ปฏิเสธ))
(อัล-อินซาน 76:3)
บางทีเขาก็เป็นผู้กตัญญู(ยอมจำนน)และบางทีเขาก็เป็นผู้เนรคุณ(ปฏิเสธ))
(อัล-อินซาน 76:3)
- มนุษย์ที่กลับกลอก มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งต่อหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ยอมจำนน ศรัทธาต่อผู้ทรงสร้างที่แท้จริง แต่ลับหลังหรือภายจิตเขาปฎิเสธหรือคิดเยาะเย้ยกับคำสอนของอิสลาม เราเรียกคนกลุ่มนี้นี้ว่า "มุนาฟิก" หรือ "กลับกลอก"
إِنَّ الْمُنَافِقِينَ يُخَادِعُونَ اللَّهَ وَهُوَ خَادِعُهُمْ وَإِذَا قَامُوا إِلَى الصَّلَاةِ قَامُوا كُسَالَىٰ يُرَاءُونَ النَّاسَ وَلَا يَذْكُرُونَ اللَّهَ إِلَّا قَلِيلًئمُذَبْذَبِينَ بَيْنَ ذَٰلِكَ لَا إِلَىٰ هَٰؤُلَاءِ وَلَا إِلَىٰ هَٰؤُلَاءِ ۚ وَمَنْ يُضْلِلِ اللَّهُ فَلَنْ تَجِدَ لَهُ سَبِيلًا
(แท้จริงบรรดามุนาฟิกนั้นกำลังหลอกลวงอัลลอฮฺอยู่ ขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงหลอกลวงพวกเขาและเมื่อพวกเขาลุกขึ้นไปละหมาดพวกเขาก็ลุกขึ้นในสภาพเกียจคร้านโดยให้ผู้คนเห็นเท่านั้น และพวกเขาจะไม่กล่าวรำลึกพึงอัลลอฮฺนอกจากเล็กน้อยเท่านั้น
โดยที่พวกเขากลับไปกลับมาระหว่างนั้น จะไปในทางพวกนี้ก็ไม่ไป จะไปทางพวกนี้ก็ไม่ไปและผู้ใดที่อัลลอฮฺให้หลงทางไปแล้ว เจ้าก็จะไม่พบทางใดๆสำหรับเขาเป็นอันขาด) (อัน-นิซาอฺ 4:142-143)
แบ่งตามสภาพของจิต(กอลบุน)
จิตเป็นตัวกำเนิดพฤติกรรม และเป็นสิ่งที่จะทำให้ผลกรรมที่ตัวเองได้รับในวันนี้หรือวันข้างหน้าจะอยู่สภาพของจิตของเขาในเวลานี้ จิตมนุษย์อัลกุรอานแบ่งออกมาได้เป็นสามลักษณะ
- จิตบริสุทธิ(قلب سليم) อัลเลาะตรัสว่า
يَوْمَ لَا يَنْفَعُ مَالٌ وَلَا بَنُونَ إِلَّا مَنْ أَتَى اللَّهَ بِقَلْبٍ سَلِيمٍ
(วันที่ทรัพย์สมบัติและลูกหลานจะไม่อำนวยประโยชน์ได้เลย เว้นแต่ผู้มาหาอัลลอฮ์ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์)(อัช-ชุอะรออฺ 26:88-89)
ในวันอาคีรัตหรือวันปรโลก ผลกรรมที่แต่ละคนจะได้รับนั้นขึนอยู่กับผลงานหรือการกระทำของเขาที่ได้กระทำมาตลอดเวลาที่เขามีชีวิตอยู่บนโลก ในวันนี้เงินทอง พรรคพวกหรือญาติสนิทไม่สามารถที่จะช่วยเหลือกเขาได้นอกจากจิตของเขาที่บริสุทธิผุดผ่องจากการได้กระทำในสิ่งที่ไม่ดี บริสุทธิด้วยการศรัทธาและยอมจำนนในการกระทำตามที่อัลลอฮฺทรงบัญญัตไว้
- จิตตายด้าน(قلب مريض) เป็นจิตของคนปฎิเสธอิสลาม ปฎิเสธคำสั่งสอนที่อัลลอฮฺประทานลงมา เลือกกระทำตามความต้องการของราคะของตัวเอง พยายามหาเหตุผลต่างๆนานาเพื่อจะปฏิเสธคำสอนของผู้ทรงสร้าง รื่นเริ่งกับการตอบสนองความสุขที่เรียกร้องบนโลกนี้เท่านั้น ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อตัวเองในวันข้างหน้า มีต่อคนอื่นและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
- จิตป่วย(قلب مريض) เป็นจิตของคนมุนาฟิกหรือคนกลับกลอก บางครั้งเป็นแบบนั้นบางครั้งเป็นแบบนี้ บางครั้งดูเหมือนว่าเขาทำดี ทำเพื่ออัลลอฮฺ ทำตามบทบัญญัติที่อิสลามต้องการ แต่บางครั้งเลือกทำตามใจตัวเองที่ศาสนาห้าม อัลลอฮฺตรัสแก่คนพวกนี้ว่า
فِي قُلُوبِهِمْ مَرَضٌ فَزَادَهُمُ اللَّهُ مَرَضًا ۖ وَلَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ بِمَا كَانُوا يَكْذِبُونَ
แบ่งตามลักษณะของพฤติกรรม(ในจิตของพวกเขามีโรคอย่างหนึ่ง(แคลงใจ)แล้วอัลลอฮฺได้ทรงเพิ่มโรคอีกอย่างหนึ่ง(ความดื้นรั้นและฐิติ)ให้แก่พวกเขา และพวกเขาจะได้รับการนลงโทษอันเจ็บแสบเนื่องจากการที่พวกเขากล่าวเท็จ)(อัล-บะเกาะเราะฮฺ 2:10)
พฤติกรรมที่มนุษย์แสดงออกมากจะมีอยู่ 3 ลักษณะด้วยกัน
- พฤติกรรมภายนอกและพฤติกรรมภายใน
- พฤติกรรมภายนอก(Overt Behavior:سلوك ظاهر) เป็นพฤติกรรมที่บุคคลอื่นสามารถสังเกตุได้ เช่นลักษณะท่าทางของการละหมาด การเดิน การวิ่ง การกิน เป็นต้น มีพฤติกรรมภายนอกอีกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายมนุษย์ จะรู้ได้ว่าได้เกิดพฤติกรรมแล้วก็ต่อเมื่อใช้เครื่องมือวัด เช่น การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต เป็นต้น พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่า โมเลคิวลาร์ (Molecular) ส่วนพฤติกรรมที่สามารถสังเกตุได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเรียกว่า โมลาร์ (Molar)
- พฤติกรรมภายใน(Covert behavior:سلوك باطن) เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นภายในตัวมนุษย์ จะรู้ได้ว่าได้เกิดพฤติกรรมนั้นแล้ว เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ส่วนบุคคลรอบข้างจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเจ้าตัวที่แสดงพฤติกรรมนั้นได้บอกแก่เขา เช่น เนียต คิด จำ รับรู้ รัก โกรธ เกลียด เป็นต้น
ผลกรรมของพฤติกรรม 2 ลักษณะที่แตกต่างกันนี้ ท่านนบีได้กล่าวว่า
إِنَّمَا الْأَعْمَالُ بِالنِّيَّاتِ ، وَإِنَّمَا لِكُلِّ امْرِئٍ مَا نَوَى ، فَمَنْ كَانَتْ هِجْرَتُهُ إِلَى دُنْيَا يُصِيبُهَا أَوْ إِلَى امْرَأَةٍ يَنْكِحُهَا ، فَهِجْرَتُهُ إِلَى مَا هَاجَرَ إِلَيْهِ(แท้จริงการงานนั้นอยู่ที่การตั้งใจ และการงานทุกอย่างของบุคคลอยู่ที่เขาตั้งใจ ผู้ใด(ฮิจเราะฮฺ)อพยพเพื่อโลกที่เขาจะได้รับ หรือเพื่อผู้หญิงที่เขาจะแต่งงาน การอพยพของเขาก็จะได้สิ่งนั้น (จะไม่ได้บุญ)) (อัลบุคอรี :1)
- พฤติกรรมที่มาแต่กำเนิดและพฤติกรรมแสวงหา
- พฤติกรรมที่มาแต่กำเนิด(Innate Behavior:سلوك فطري) พฤติกรรมบางพฤติกรรมที่มนุษย์แสดงออกมานั้นไม่ได้เกิดจากประสบการณ์หรือการเรี่ยนรู้ แต่มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเราเรียกว่าว่าเป็นฟิฏเราะฮฺ เช่น การร้อง การนอน การกิน การเดิน เป็นต้น พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่บริสุทธิ ดำเนินตามครรลองที่ได้กำหนดมา เว้นพ่อแม่หรือสิ่งแวดล้อมมาเปลี่ยนแปลงวิถการหรือลักษณะการดำเนินของพฤติกรรมนั้น ท่านนบี(ศ็อลฯ)ได้กล่าวว่า
كُلُّ مَوْلُودٍ يُولَدُ عَلَى الْفِطْرَةِ ، فَأَبَوَاهُ يُهَوِّدَانِهِ أَوْ يُنَصِّرَانِهِ أَوْ يُمَجِّسَانِهِ
(เด็กที่คลอดออกมาทุกคนจะคลอดออกมาด้วยความบริสุทธิ์(ฟิฏเราะฮฺ) ดังนั้นพ่อแม่ของเขาเป็นคนที่ทำให้เขาเลือกวิถีชีวิตเป็นยิว เป็นนัศรอนี(คริสต์)หรือเป็นมุญูซี(บุชาไฟ))(อัลบุคอรี : 1302)
- พฤตกรรมแสวหาหรือพฤติกรรมเรียนรู้(Learned behavior:سلوك مكتسب) พฤติกรรมส่วนใหญ่ของมนุษย์อัลลอฮฺให้อิสระในการจัดหาที่จะแสดงพฤติกรรมของตนเอง พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้นี้อาจจะเกิดจากประสบการณ์ที่เคยประสบ การสังเกตคนอื่นหรือสิ่งอื่น หรือจากการทดลองตามที่นึกคิดหรือได้รับการสั่งสอนมา อาจจะแบ่งประเภทของพฤติกรรมที่ได้จากการเรียนรู้ได้ดังนี้
การเรียนรู้แบบความเคยชิน (habituation)
การเรียนรู้แบบฝังใจ (imprinting)
การเรียนรู้แบบมีเงื่อนไข (conditioned response)
การเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก (trial and error learning )
การเรียนรู้แบบใช้เหตุผล (insight learning)




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น