วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ซูเราะฮฺ อัล-ญิน : 1 - 2

( 1 )   จงกล่าวเถิด(มุหัมมัด)ว่า ได้มีวะฮียฺมายังฉันว่า แท้จริงพวกญินจำนวนหนึ่งได้ฟัง(อ่านกุรอาน) และพวกเขากล่าวว่า แท้จริงเราได้ยินกุรอานที่แปลกประหลาด   ( 2 )   อัลกุรอาน
นำไปสู่ทางที่ถูกต้อง ดังนั้นพวกเราจึงศรัทธาต่ออัลกุรอานนั้น และเราจะไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีต่อพระเจ้าของเรา
قُلْ أُوحِيَ إِلَيَّ أَنَّهُ اسْتَمَعَ نَفَرٌ مِنَ الْجِنِّ فَقَالُوا إِنَّا سَمِعْنَا قُرْآنًا عَجَبًا 

ความว่า : จงกล่าวเถิด(มุหัมมัด)ว่า ได้มีวะฮียฺมายังฉันว่า แท้จริงพวกญินจำนวนหนึ่งได้ฟัง(อ่านกุรอาน) และพวกเขากล่าวว่า แท้จริงเราได้ยินกุรอานที่แปลกประหลาด

เหตุการณ์ญินได้ยินเสียงอ่านอัลกุรอานนี้ จากบันทึกเศาะหีหฺของมุสลิมและอัตติรมีซีย์ได้เขียนไว้พอสรุปได้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีปัญหากับการประกอบอาชีพของญิง ก่อนหน้านั้นญินสามารถขึ้นไปบนฟ้าเพื่อฟังคำลิขิตต่างๆที่จะเกิดบนโลกมนุษย์ แต่หลังจากนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะขึ้นไปอีก ขึ้นไปทีไรก็โดนขว้างด้วยก้อนไฟตกลงมา เลยทำให้ผู้นำของพวกเขาเกณฑ์ให้กลุ่มของพวกเขาออกไปตามหาสาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถขึ้นบนฟ้ากฟ้าได้ ในระหว่างนั้นท่านนบี(ศ็ิอลฯ)กำลังละหมาดศุบฮฺอยู่ในสวนอินตผาลัมระหว่างเมือกมักกะฮฺกับเมืองฏออีฟ พวกญินได้ยินเสียงอัลกุรอานที่ท่านนบีกำลังอ่านอยู่่ (ตัฟซีร อัลุรฏุบี)


อัลญะลาลีนได้กล่าวว่าเหตุการนี้อัลลอฮฺได้ตรัสในอายะฮฺ 29 ซูเราะฮฺ อัล-อะหฺกอฟ ว่า

وَإِذْ صَرَفْنَا إِلَيْكَ نَفَرًا مِنَ الْجِنِّ يَسْتَمِعُونَ الْقُرْآنَ فَلَمَّا حَضَرُوهُ قَالُوا أَنْصِتُوا ۖ فَلَمَّا قُضِيَ وَلَّوْا إِلَىٰ قَوْمِهِمْ مُنْذِرِينَ  
ความว่า : "( 29 )   และจงรำลึกเมื่อเราได้ให้ญินจำนวนหนึ่งมุ่งไปยังเจ้า เพื่อฟังอัลกุรอาน ครั้นเมื่อพวกเขามาปรากฏตัวต่อหน้าอัลกุรอาน พวกเขากล่าวว่า จงนิ่งฟังซิ เมื่อ (การอ่าน) จบลงแล้ว พวกเขาก็หันกลับไปยังหมู่ชนของพวกเขาเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ตักเตือน"
เมื่อญินจำนวนหนึ่งได้เจอเสียงอ่านอัลกุรอานแล้วพวกเขาก็กลับไปบอกพวกพ้องของพวกเขาว่า พวกเขาได้ยินเสียงอัลกุรอานที่แปลกประหลาด แปลกทั้งความหมาย แปลกทั้งเสียงสัมผัน แปลกทั้งความไพเราะที่พวกเขาไม่เคยได้ยินเสียงลักษณะนี้มาก่อน


يَهْدِي إِلَى الرُّشْدِ فَآمَنَّا بِهِ ۖ وَلَنْ نُشْرِكَ بِرَبِّنَا أَحَدًا

ความว่า : อัลกุรอานนำไปสู่ทางที่ถูกต้อง ดังนั้นพวกเราจึงศรัทธาต่ออัลกุรอานนั้น และเราจะไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีต่อพระเจ้าของเรา

يَهْدِي إِلَى الرُّشْدِ นำไปสู่ทางที่ถูกต้อง หลังจากกลุ่มญินกลุ่มที่ได้ฟังเสียงอัลกุรอานจากนบี เนื้อหาที่เขาได้ฟังนั้น ทำให้เขาคิดได้และพบว่าอัลกุรอานนี้ทำให้เขาฉลาด สอนให้เขาพบความจริง ไม่ทำตามญินรุ่นเก่าๆ แบบหลงงมงาย หรือตามแบบไม่ใช้ปัญญาใดๆเลย นอกจากทำตามที่เขาสั่งหรือทำตามที่เขาทำตามกันแบบสืบทอดกันมาอย่างไร้เหตุผลที่ใช้ปัญญา

فَآمَنَّا بِهِ  เราจึงศรัทธาต่ออัลกุรอานนั้น  เมื่อเราได้ยิน ได้ฟังความหมายจากเสียงที่ได้ยินมานั้น ทำให้เราฉลาด และพบว่านำเราสู่ความถูกต้อง เราจึงศรัทธาและเชื่อในอัลกุรอานที่อ่านโดยนบีมุหัมมัด(ศ็อลฯ)

ۖ وَلَنْ نُشْرِكَ بِرَبِّنَا أَحَدًا และเราจะไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีต่อพระเจ้าของเรา ก่อนหน้านี้เรา(ญิน) เชื่อในพระเจ้าและเชื่อในสิ่งอื่นๆด้วย เช่น เชื่อตามอิบลิซ ที่เขาให้เราไปสดับรับฝังลิขิตจากฟ้ากฟ้า แต่ต่อจากนี้เราศรัทธาในอัลกุรอานแล้ว เราศรัทธาในอัลลอฮฺ เพียงองค์เดียวเท่านั้น ผู้มีอำนาจสูงสุดในการที่จะสั่งเราทำตามนั้นคืออัลลอฮฺเท่านั้น

จากสองอายะฮฺที่กล่าวมาข้างบนนี้ ทำให้เราเข้าใจได้ทันทีว่า ญินนั้นมีทั้งที่ศรัทธาเป็นมุสลิมและมีทั้งญินที่ไม่ศรัทธา แล้วญินคือใครเป็นชัยฏอนดวยใหม่ ?

นักวิชาการมีความเห็นแตกในเรื่องความเป็นมาของ "ญิน" หะซัน อัลบัศรีย์ บอกว่า ญินนี้เป็นลูกของอิบลิซผู้ปฎิเสธที่จะทำตามคำสั่งของอัลลอฮฺให้กราบอาดัม มนุษย์เป็นลูกของอาดัม ทั้งสองกลุ่มนี้มีทั้งที่เป็นมุมินศรัทธาในอัลลอฮฺ มีทั้งกาฟิรฺปฏิเสธที่จะทำตามคำบัญชาของอัลลอฮฺ และทั้งสองมีสิทธิได้รับบาปบุญเหมือนๆกัน ผู้ที่มุมินหรือศรัทธาในอัลลอฮฺนั้นก็จะได้เป็นวะลียุลลอฮฺ และผู้ที่ปฎิเสธหรือกาฟิรฺนั้นก็คือชัยฏอน

อัฏฏอหาก กล่าวว่า รายงานจากอิบนุอับบาซว่า ญินนั้นเป็นลูกของ อัลญาน และญินไม่ใช่ชัยฏอน มีที่ศรัทธา(มุมิน)ในอัลลอฮฺมีที่ไม่ศรัทธา(กาฟิร) และชัยฏอนนั้นเป็นลูกของอิบลีซ จะไม่ตายจากไปยกเว้นเมื่ออิบลิซตายเขาจะตายจากไปด้วย

เมื่อความเห็นแตกต่างกันแบบนี้ ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วญินจะได้เข้าสวรรค์ไหม ?

นักวิชาการบางคนที่เห็นว่า ญินนั้นไม่ใช่ลูกหลานของอิบลีซ เมื่อมุมินแล้วก็จะได้เข้าสวรรค์เหมือนๆมนุษย์มุมินทุกคน ส่วนกลุ่มที่เห็นว่าญินนั้นเป็นลูกหลานของก็จะไม่ได้เข้าสวรรค์ แต่จะไม่ต้องเข้านรก
และอายะฮฺที่   70-74 ซธเราะฮฺ อัล-เราะหฺมาน เป็นการยืนยันได้ว่า ญินนั้นได้เข้าสวรรค์

فِيهِنَّ خَيْرَاتٌ حِسَانٌ (70)ـ
فَبِأَيِّ آلَاءِ رَبِّكُمَا تُكَذِّبَانِ (71)ـ
حُورٌ مَقْصُورَاتٌ فِي الْخِيَامِ (72)ـ
فَبِأَيِّ آلَاءِ رَبِّكُمَا تُكَذِّبَانِ (73)ـ
لَمْ يَطْمِثْهُنَّ إِنْسٌ قَبْلَهُمْ وَلَا جَانٌّ (74)ـ

( 70 )   ในสวนสวรรค์เหล่านั้น มีหญิงสาวที่มีมารยาทดีสวย
( 71 )   ดังนั้นด้วยบุญคุณอันใดเล่าแห่งพระเจ้าของเจ้าทั้งสองที่เจ้าทั้งสองปฏิเสธ?
( 72 )   หญิงสาวผิวพรรณขาวผ่อง นัยตาคม (ที่เก็บตัวเฉพาะสามีของนางเท่านั้น) อยู่ในกระโจม
( 73 )   ดังนั้น ด้วยบุญคุณอันใดเล่าแห่งพระเจ้าของเจ้าทั้งสอง ที่เจ้าทั้งสองปฏิเสธ
( 74 )   ซึ่งไม่มีมนุษย์และไม่มีญิน แตะต้องพวกนางมาก่อนเลย

ญิน คือ อะไร 

ญินเป็นสิ่งมีชีวิตอีกลักษณะหนึ่งที่อัลลอฮฺสร้างขึ้นมา ที่แตกต่างจากมนุษย์และมะลาอิกะฮฺ และทั้งสามชนิดนี้มีปัญญา มีความรู้สึก มีอิสระในการเลือก จะเลือกทำในสิ่งที่ดีหรือไม่ดี อัลลอฮฺจะให้อิสระแก่สามชนิดนี้ ผิดกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นพืชและสัตว์ที่จะทำตามธรรมชาติที่อัลลอฮฺกำหนดเท่านั้น ไม่มีปัญหาและความรู้สึกมากพอที่จะเลือกทำดีหรือทำชั่ว

ที่ได้ชื่อว่า "ญิน" ที่แปลว่าสูญหายไปหรือปกปิด* เพราะมนุษย์ไม่สามารถที่จะมองเห็นมันได้ ตามที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า่
إِنَّهُ يَرَاكُمْ هُوَ وَقَبِيلُهُ مِنْ حَيْثُ لَا تَرَوْنَهُمْ 
ควาว่า : แท้จริงทั้งมัน และเผ่าพันธุ์ของมันมองเห็นพวกเจ้าโดยที่พวกเจ้าไม่เห็นพวกมัน  (อัล-อะอฺรอฟ : 7/27)
อัลลอฮฺได้ทรงสร้างญินก่อนมนุษย์ โดยสร้างจากเปลวไฟ พระองค์ตรัสว่า
وَالْجَانَّ خَلَقْنَاهُ مِنْ قَبْلُ مِنْ نَارِ السَّمُومِ 
ความว่า :   และญินนั้น เราได้สร้างมันมาก่อนจากเปลวไฟ (อัล-หิจรฺ : 15/27)

อิมามนะวาวีได้เขียนในหนังสือคำอธิบายหะดีษของมุสลิมว่า ญินถูกสร้างจากเปลวไฟที่ปะปนกับสีดำ

ญิน มีอยู่ 3 ชนิด ดังหะดีษนบีที่ว่า

عَنْ أَبِي ثَعْلَبَةَ ، قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : " الْجِنُّ عَلَى ثَلاثَةِ أَصْنَافٍ : صِنْفٌ لَهُمْ أَجْنِحَةٌ يَطِيرُونَ فِي الْهَوَاءِ ، وَصِنْفٌ حَيَّاتٌ وَكِلابٌ ، وَصِنْفٌ يَحِلُّونَ وَيَظْعَنُونَ

ความว่า : รายงานจาก อะบู ซะอฺละบะฮฺ ว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ(ศ็ิอลฯ) ได้กล่าวว่า "ญิน มี 3 ชนิด คือ ขนิดที่มีปีกบินในอากาศ ชนิดที่เป็นสัตว์เลี้อยคลานและสุนัข และชนิดที่อยู่กับที่และเดินทาง" (บันทึกโดย อิบนุหิบาน)

------------------------
* فَلَمَّا جَنَّ عَلَيْهِ اللًّيْلُ رَأَى كَوْكَباً قَالَ هَذَا رَبِّي
(ครั้นเมื่อกลางคืนปกคลุมเขา เขาได้เห็นดาวดวงหนึ่ง เขากล่าวว่า นี้คือพระเจ้าของฉัน) (อัล-อันอาม : 6/76)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น