มุสลิมไม่ควรเปิดเผยข้อผิดพลาดของมุสลิม

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ ، عَنِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، قَالَ :  

لَا يَسْتُرُ عَبْدٌ عَبْدًا فِي الدُّنْيَا إِلَّا سَتَرَهُ اللَّهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ   

ความว่า : รายงานจากอะบูฮุร็อยเราะฮฺ ว่า ท่านนบี -ศ็อลล็อลฮุอะลัยฮิวะซัลลัม- ท่านได้กล่าวว่า "บ่าวคนหนึ่งจะไม่ปิดบัง(การงานที่ไม่ดีของ)บ่าวอีกคน เว้นแต่อัลลอฮฺได้ปิดบังเขา(จากไฟนรก)ในวันกิยามะฮฺ"

(บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 2590 ในหนังสือ เศาะหีหฺมุสลิม ในเรื่องความดีและความสัมพันธ์ หัวข้อ ผู้ที่อัลลอฮฺจะปกปิดความบกพร่องของเขาบนโลก) 

หะดีษนี้อิมามนะวาวีได้เขียนในหัวข้อเรื่อง "การปกปิดเอาเราะฮฺ(ส่วนพึงสงวน)ของมุสลิมและห้ามการเผยแพร่โดยไม่จำเป็น"  โดยท่านได้ยกอายะฮฺอัลกุรอาน อายะฮฺที่ 19 ซูเราะฮฺ อัน-นูรฺ กล่าวนำในหัวข้อนี้
อัลลอฮฺตรัสว่า

إِنَّ الَّذِينَ يُحِبُّونَ أَنْ تَشِيعَ الْفَاحِشَةُ فِي الَّذِينَ آمَنُوا لَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ فِي الدُّنْيَا وَالْآخِرَةِ

ความว่า :    แท้จริงบรรผู้ชอบที่จะให้เรื่องบัดสีแพร่หลายไปในหมู่ผู้ศรัทธานั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างเจ็บปวด ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า.. (ซูเราะฮฺ อัน-นูรฺ 24:19)

อิบนุ อัลอุษัยมีน ได้กล่าวในหนังสือคำอธิบายหะดีษริยาฎุศศอลิหีน ว่า อาเราะฮฺ(หรือส่วนที่พึงสงวน)ในทีนี้ หมายถึงเอาเราะฮฺที่เป็นนามธรรม เพราะเอาเราะฮฺนั้นมีอยู่ 2 แบบ คือ

1. เอาเราะฮฺรูปธรรม สัมผัสได้ เป็นเอาเราะฮฺที่ห้ามเราเพ่งมองในสิ่งนั้น เช่น อวัยวะเพศ เนื้อหนังและสัดส่วนของร่างกายตามที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในเรื่องเอาเราะฮฺของผู้หญิง
2. เอาเราะฮฺที่เป็นนามธรรม สัมผัสไม่ได้ เช่น สิ่งที่น่าอาย มีกริยามรรยาที่ไม่งามหรือการกระทำที่ไม่ดีหรือที่ไม่พึงประสงค์  

การกระทำผิดหรือทำในสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ของมนุษย์มีสาเหตุความเป็นตัวตนของเขานั้น 2 ลักษณะ คือ คนที่ทำผิดโดยความตั้งใจ อันนี้เรียกว่า ซอลิม(ظالم) อธรรม หมายถึงเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่คำนึงถึงความถูกต้องหรือความน่าจะเป็น อีกประเภทหนึงคือทำผิดเพราะไม่รู้ อันนี้เรียกว่า ญาฮิล(جاهل)โง่ ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น กรณีแรกแน่นอนเป็นบาปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากได้เตาบะฮฺหรือขอลุโทษจากอัลลอฮฺ

จากหะดีษที่ยกมาข้างบนนี้ คำว่า "يستر" (ปิดบัง) หมายถึง ทำให้มองไม่เห็นในสิ่งนั้น และการปิดบังนั้นมีทั้งดีและไม่ดี หมายถึงทุกอย่างที่ปิดบังนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีและทุกอย่างที่ปิดบังนั้นไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี

• เมื่อคนหนึ่งคนใดได้กระทำผิด เขารู้ตัวหรือไม่รู้ตัวว่าเขาได้กระทำผิดไปแล้ว เราในฐานะที่เป็นมุสลิมด้วยกัน จะต้องให้คำแนะนำและนะศิหัตแก่เขา การปิดบังการกระทำผิดแบบนี้ถือว่าควรปิดบังไว้ ไม่ควรเปิดเผยหรือเผยแพร่ต่อไป และอัลลอฮฺจะปิดบังความผิดของเราในวันอาเครัตด้วย
• ในบางครั้ง คนกระทำผิดยืนยันที่กระทำผิด เขาไม่ยอมรับผิด ไม่ยอมขอโทษใดๆ เราต้องบอกข่าวการกระทำผิดนี้แก่ผู้รับผิดชอบ เช่นผู้ปกครอง เพื่อที่จะได้หยุดยั้งเขาและให้เขาได้รับโทษที่ตามที่ได้บัญญัติไว้ ถ้าเราปกปิดความผิดในลักษณะนี้จะเป็นการปกปิดในสิ่งที่ควรพูดความจริง

สรุปว่า .. จะปิดบังหรือเปิดเผยนั้น ขึ้นอยู่กับผลที่จะตามมา ถ้าผลที่จะได้ตามมาเป็นสิ่งดี ก็ควรปิดบัง แต่ถ้าถ้าปิดบังแล้วผลที่ได้ตามมาอาจจะสร้างความเสียหายแก่ตัวเขา แก่สังคมหรือประชาชาติมุสลิมก็ควรเปิดเผยในเรื่องนั้นไม่ควรปิดบังหรือปกปิดไว้ ..   แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าผลที่จะได้ตามมาจะดีหรือไม่ดีนั้น การปิดบังจะเป็นการดีสำหรับเขา.. วัลลอฮุมะวัฟฟัก