بسم الله الرحمن الرحيم
ด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางความคิดและการปฎิบัติศาสนากิจ ทำให้ผมคิดถึงอาเยาะฮฺ(คุณพ่อ)มากๆ พ่อผมเป็นโต๊ะครูสอนศาสนาอิสลาม เป็นนักต่อสู้และนักบริการเพื่อให้ความสะดวกสบายหลายอย่างแก่มุสลิม โดยเฉพาะมุสลิมในภาคใต้ ท่านเคยเป็นประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา นอกจากท่านเคยเรียกร้องให้มีประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแล้ว ท่านก็เป็นหนึ่งในคนที่เริ่มต้นนำคนไปทำฮัจญ์ขึ้นตรงจากประเทศไทยไม่ต้องไปขึ้นเรีอที่เมืองปีนังประเทศมาเลเซียอย่างที่เคยกระทำ
![]() |
| หะยีมุสตอฟา บินอาแว หะยีสาอิ |
อายัตอัลกุรอานที่ผมยกขึ้นมาข้างบนนั้น เป็นอายัตที่ผมอ่านเมื่อเช้านี้ ทำให้ผมยิ่งคิดถึงท่าน คิดถึงผลงานของท่าน คิดถึงคำสั่งสอนของท่าน เมื่อผมเดินทางไปต่างประเทศท่านเขียนจดหมายถึงผม สอนผมเป็นข้อๆ 7 ข้อ และหนึ่งข้อในนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอายัตนี้ ท่านบอกว่า "จงทำความดีเสมือนกับที่อัลลอฮฺได้ทรงทำความดีแก่เจ้า" ซึ่งตอนนั้นผมยังเด็ก ภาษาอาหรับยังไม่รู้เรื่อง ผมเลยนึกว่าเป็นคำสอนของท่าน แต่พอผมอ่านหนังสืออาหรับพอรู้เรื่อง มาอ่านอัลกุรอานในอายัตนี้ ก็เลยทำให้ผมนึกว่าอีก 6 ข้ออื่นๆ คงไม่ใช่คำพูดของท่านเหมือนกัน และเป็นเช่นนั้นจริงๆ เช่น ท่านสอนว่า เวลาคุยกับใครอย่างหันข้าง เป็นต้น ใช่.. ท่านสอนลูกด้วยอัลกุรอาน เพราะไม่มีคำสอนใดจะดีกว่าอัลกุรอานอีกแล้ว
ในอายัตนั้นนอกจากจะมีคำที่คุณพ่อเคยยกมาสอนผมแล้ว ในตอนต้นๆของอายัตทำให้ผมนึกได้ตอนที่ผมเรียนศึกษาศาสตร์ปีแรก เรียนวิชา"หลักการศึกษาในอิสลาม" เรียนเรื่องจุดประสงค์ของการศึกษา ดร.ที่สอนผมได้ยกอายัตนี้เป็นหนึ่งในจุดประสงค์ของการศึกษาในอิสลาม "และจงแสวงหาสิ่งที่อัลลอฮฺได้ประทานแก่เจ้าเพื่อปรโลกและอย่าลืมส่วนของเจ้าแห่งโลกนี้" หมายถึง อิสลามไม่ได้ให้เรียนเรื่องที่เป็นการทำอิบาดัตหรือเรื่องศาสนาอย่างเดียว แต่ให้เรียนเรื่องที่เกี่ยวกับการแสวงหาเพื่อความอยู่รอดบนโลกนี้ด้วย
ขอทิ้งท้ายเช้านี้ด้วยอายัตนี้ ให้อ่านอัลกุรอาน ละหมาด เพราะการละหมาดสามารถยับยั้งการทชั่วได้ รำลึกถึงอัลลอฮฺเสมอ และอัลลอฮฺรู้ทุกอย่างที่เจ้าทำ



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น