เปิดอ่านไปเรื่อยๆ มีบางประโยคที่ไม่เข้าใจ และบางตัวไม่รู้ว่าเขาอ่านยังไง อย่างตัวอย่างในหน้าที่ผมได้นำเสนอนี้
อย่างตัวแรกที่เขียนในคอลัมภ์ที่ 2 เขาจะเขียนว่า " كارن " ชีวิตผมไม่เคยเขียนแบบนี้เลย แม้จะอ่านได้และเข้าใจความหมาย แต่ไม่เคยเขียนก็รู้สึกแปลกดีเหมือกัน เพราะปกติแล้วผมจะเขียน " كران " ที่แปลว่า เพราะ หรือ เพราะว่า
คำต่อมาก็อ่านไม่ออกเลย พยายามเท่าไรก็ไม่เข้าใจ "كية اية" เลยลองขับมอร์ไซด์ไปเรื่อยๆ พาหนังสือเล่มนี้ไปด้วย เจอคนเก่าคนแก่ที่เคยเป็นลูกศิษย์ของท่านก็จะลองถามดู ก็ได้เจออดีตโต๊ะอีมามที่เคยอยู่กับท่าน ก็ให้เท่านช่วยอ่าน .. (เมื่อไม่รู้ก็ต้องบอกว่าไม่รู้ อย่าพยายามทำตัวเป็นผู้รู้)
อดีตโต๊ะอีมามมัสยิดดารุซซาลาม ต.บาโงยซิแน
ท่านอดีตโต๊ะอีมามก็อ่านให้ฟังทันที ก็ถึงบางอ้อ นึกถึงหลักเกณฑ์หลักการที่เขาใช้ที่เคยได้เจอในหนังสือบางเล่ม
كارن جكلو تياد ادا توهن كية اية دمان بوله ادا كيت سرة سڬل مخلوق
ถ้าเป็นผมผมจะเขียนแบบนี้
كران جكلو تياد اد توهن كيت ايت دمان بوله اد يكت سرت سڬل مخلوق
ในฐานะที่ผมเคยเป็นเด็กโรงพิมพ์ เคยทำงานเรียงพิมพ์แบบเรียงตัวตะกั๋ว เลยเข้าใจตามที่เขาอ้างว่า เดิมทีตัวหนังสือสะกดด้วยตัว ت หรือ ة จะสะกดด้วยตัว " ت " ทั้งหมด แต่เนื่องจากว่า ตัว ت นั้นมีจำนวนจำกัด และหนังสือยาวีจะใช้ ت เยอะ เลยมาใช้ตัว ة แทน ت แต่ผมไม่นึกว่าเขาจะใช้ถึงขนาดที่ผมอ่านไม่ได้ขนาดนี้ كية اية จากคำเดิมที่ว่า كيت ايت
แต่คำว่า سرة นี้ที่จะเดาได้ว่า มาจากคว่า سرت
ตามหลักเกณฑ์ที่ผมวางไว้ในเรื่องนี้ จะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่อาจจะทราบได้ แต่ผมตั้งไว้เพื่อสะดวกที่ผมจะอ่าน
คำบางคำไม่จำเป็นต้องมีสระ ا ي و แต่ให้ถือว่า มีตัวนั้นปรากฎอยู่ในลักษณะ สระในภาษาอาหรับ َ ِ ُ
เช่น اد (อะดอ) ไม่จำเป็นต้องเขียนเป็น ادا (ผมจะอ่านว่า อะดา)
ส่วนตัว ة นี้จะเขียนเฉพาะคำดั้งเดิมที่เป็นภาษาอาหรับเท่านั้น เช่น คำว่า سلامة ไม่ควรเขียน سلامت
วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ไว้วันนี้ถ้ามีภาษามลายูที่เกี่ยวข้องกับที่ผมเคยทำก็จะคุยอีก อินชาอัลลอฮฺ


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น